North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Saturday, December 18, 2010

ลงทุนร้านอาหารไทยเมืองนอก ง่ายนิดเดียว ลองมาแล้ว




by Nu Kittinu on Sunday, September 12, 2010 at 5:36pm
เนื่องจากต้องเดินทางมาแคนาดาเพื่อรักษาสิทธิพลเมืองแคนาดา ในปี 2008  ให้ชื่อ โครงการเฟสแรกว่า โครงการ...ชุบตัว...

ได้ วางแผนจะทำธุรกิจเพิ่ม คือ ร้านอาหารไทยที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทย ซึ่งได้รู้จักหุ้นส่วน อีก 2 คนที่เป็นพลเมืองแคนาดาเหมือนกัน ที่มีเป้าหมายเดียวกันที่มีศักยภาพในการทำอาหาร ซึ่งจบการเรียนทำอาหารที่สวนดุสิต เนื่อง
จากผมทำอาหารไม่เป็น จึงเตรียมส่งตัวแทนเรียนแทนผม ที่สวนดุสิตเหมือนกันแล้วให้ฝึกงานที่จะได้ใบจากกรมแรงงานด้วย โดยลงทุนให้ค่าเรียน ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายด้วย หมดไปเกือบ ครึ่งแสน เพื่อจะให้มาแทนผมและทำการวางแผนธุรกิจ โดย ผม ยินยอมถือหุ้น 30% หรือ 1 ใน 3 ของเงินลงทุน ประมาณ 1 ล้าน โดยวางว่าจะได้ทำงานด้วย ระหว่างเรียนหนังสือ เมื่อการสร้างร้านเสร็จแล้ว  ตามแผนงานที่วางไว้

เรา เลือกเมือง คัลการี เพราะ เป็นเมืองน้ำมัน และพลังงาน มีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในแคนาดา คนมีรายได้เยอะอยู่เมืองนี้ และ ยังมีร้านอาหารไทยเพียง 10 กว่าร้าน และมีเจ้าของไทยเพียง 3 ร้าน  ไม่เหมือน โตรอนโต และ แวนคูเวอร์ ที่มีร้านอาหารไทย 100-200 ร้านที่เดียว

เริ่ม ด้วยการ ตั้งแบรนด์ ซึ่งชื่อที่ผ่าน ก็มองมาจากหัวสมองผมนั่นเอง เริ่มการสร้างร้านด้วย การเดินสำรวจแลัววิเคราะห์ จุดแข็ง จุดอ่อน ของร้าน จากหลายร้านที่ประกาศให้เช่า หรือ ให้เซ้งกิจการต่อ ซึ่งมองแล้วว่า การเทคโอเวอร์ ง่ายที่สุด จากหลายๆ ร้าน ในที่สุดก็ได้เทคโอเวอร์  ร้านอาหารร้านหนึ่ง มาทำต่อ โดยจะต้อง ตกแต่งใหม่ งานที่ทำแบ่งกันไป โดยผมรับผิดชอบในงานช่าง เดินระบบไฟ แสงสว่าง ทำป้ายร้าน ทำภาพฝาผนัง ทาสีร้านใหม่  หุ้นส่วนอื่น ทำการตกแต่งชุดโต๊ะอาหาร ทุกอย่าง เราทำเอง และดูแลการสั่งซื้อของ เพราะ ถ้าจ้างค่าแรงจะแพงมาก สำหรับค่าแรงฝรั่งที่นี่  จึงได้ร้าน ธีมอย่างที่เห็นในภาพ

ต่อ จากนั้น การดำเนิน เอกสาร ทำการตืดต่อ ทนาย ซึ่งได้เป็นชาวเวียดนาม ในการจดทะเบียนบริษัท ผมถือหุ้นในสัดส่วน 1/3 หรือ ประมาณ 30% โดยติดต่อเอกสารของรัฐบาล ที่เรียกสั้นๆ ว่า City ทั้งส่งแบบอนุมัติร้าน การเช่า โดย City จะออกใบอนุญาติทำธุรกิจให้เรา ส่วน ใบอนุญาติขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องของแยก ซึ่งผมจะไปด้วยทุกครั้ง เพราะ อยากรู้ขั้นตอนว่าทำอย่างไรบ้าง

หลังจากทุกอย่างเสร็จ เริ่มเดือนแรกด้วยการทำงานในร้าน เจ้าของต้องเป็นเด็กเสริ์ฟ ผมรับตำแหน่งนั้น พร้อมเก็บเงิน รับลูกค้า ชีวิตนี้ บอกว่า "ไม่เคยทำมาก่อนเลย"  จนกว่า เราจะจ้างลูกจ้างมาจากเมืองไทยได้ ต้องประกาศก่อน 3 เดือน ให้คนในแคนาดาก่อน ดังนั้น จะต้องทำกันเอง 3 คน และจ้างคนไทยมนพื้นที่มาช่วยก่อนโดยจ่ายเป็น Cash  ผมก็เริ่มผลักตัวเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย หลังจากที่ ร้านได้ประมาณ 3 เดือน  ยอดขายช่วงแรก ไม่ถึง 1 หมึ่นเหรียญ ต่อเดือน ธุรกิจดำเนินมาเรื่อยๆ จน 2 ปี ยอดขายเพิ่มเป็น ระดับ 3 หมื่นกว่า เหรียญ ไม่รวม ทิป ซึ่งเป็นเงินสดประมาณ 10% ในแต่ละเดือน โดยใช้กลยุทธ Dining,Take out service,Delivery compamy ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ สามารถจ้างลูกจ้างคนไทยมาจากเมืองไทยเพิ่มอีก 3 คน

เนื่องจาก ผมใกล้เรียนจบโทแล้ว 2 ปี พอดี จึงพิจารณาการขายหุ้นที่ถือ 30% เพื่อเตรียมตัวกลับบ้านเมืองไทย และ ทำงานหลังเรียนจบในด้านวิศวกร ให้เท่าฝรั่ง ถ้าจะทำงานที่แคนาดา สุดท้ายก็ได้ขายหุ้นพร้อมกำไร ให้พี่คนไทยคนใหม่ ที่จะมาเป็นหุ้นส่วนร้าน ไม่ได้เสียดายอะไร เพราะ รู้วิธีทำกิจการแล้ว ว่าทำอย่างไร ระบบบัญชี ยกเว้นอย่างเดียว คือ การลงมือทำอาหารด้วยตัวเอง จะทำอีกครั้ง ก็ไม่ได้ยากอะไร ความรู้ติดตัวใครก็แย่งไปไม่ได้ แต่ที่รู้ ๆ เงินรั่วไหลได้ง่ายมาก ถ้าไม่อยู่คงไม่มีกำไร ถึงผู้ถือหุ้นเป็นแน่ ประกอบกับ ได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนในตลาดหุ้น TSX ทำให้ตัดสินใจขายหุ้นทั้งหมดเพื่อลงทุนในตลาดเงินดีกว่า ได้ปันผลและกำไรที่ดีกว่าแน่นอน

ดังนั้น โดยภาพ ธุรกิจร้านอาหารไทย ไม่มีโอกาส เจ้ง เลยก็ว่าได้ เพราะ อาหารบ้านเราอร่อย โด่งดังระดับโลก ฝรั่งเขารู้จัก แต่ ต้องใช้เวลาหน่อย เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า  งานจะจุบ จิบ วุ่นวายมาก ควบคุมระบบเงินรั่วได้อยากมาก ระบบเงินสดและ ทิป รวมทั้งคนและหุ้นส่วน ถ้ามีวิสัยทัศไม่ตรงกันซึ่งผมก็ได้เจอแล้ว ว่า จริง อย่างที่หนังสือเขียนไว้ หรือ คนอื่นได้เตือนไว้
นโยบายผม คือ "รวย ต้อง รวยกันเป็นทีม"  แต่บางคนไม่ใช่ คนแบบผม นะสิ ......คือ ปัญหา

ผม อาจจะกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับ "ดรีมทีม ที่มีวิสัยทัศน์ตรงกัน" บุก เมืองแวนคูเวอร์ เพื่อทำมันอีกครั้ง เพื่อช่วยคนที่ลำบากได้อีกหลายคน ถ้าเป็นไปได้  มันยังมีโอกาส อีกมากมายเหรอเกินที่แคนาดา นี้ สำหรับธุรกิจอาหารไทยบ้านเรา  ต้องกลับบ้านก่อน มีสัญญาณเรียกตัวให้กลับ เมื่อครบกำหนด 3 ปี ในกลางปีหน้า กลับมาอีกครั้ง ไม่ยาก ผมรู้วิธีและสามารถจัดตั้งบริษัทในแคนาดา โดยมีผมเป็นแคนาเดียนและ คนไทยที่จะถือหุ้นได้อีก 50% ทางกฏหมาย นั่นเอง

ปล. ภรรยาไทย สามีฝรั่ง ไม่มีความรู้กันเท่าไหร่ ยังทำร่ำรวยกันได้ และ ทำไมทีมนักธุรกิจ จะมาทำไม่ได้ล่ะ ง่ายนิดเดียว จริงๆ นั่นแหละ

No comments:

Post a Comment