ตอนนี้ อยู่ที่ เมืองแวนคูเวอร์ แคนาดา Jun16-23, 2012 ครับ มา วิจัยธุรกิจ SWOT ตลาด และเที่ยวพักผ่อน
สำหรับเมืองไทย ช่วง มีนาคม 2012 ได้เดินทางไปเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เป็นการลงภาคใต้ครั้งที่ 2 ผ่านไปทาง สงขลา เป็น เกาะที่สวยงาม ยก โน๊ตบุค คู่ใจไปนั่งลงทุน ตกปลาที่เกาะด้วย ลงทุนได้ทุกที่ ทุกเวลา โชคดีที่ ที่พัก มี WiFi เร็ว (คิดในใจ เมื่อไหร่ 3G ของจริงจะมาสักที)
มาทำความรู้จัก ตลาดอนุพันธ์เพิ่ม กันก่อน สำหรับ มือใหม่ ที่จะพัฒนาการลงทุนที่เสี่ยงมากขึ้น และมี Leverage ที่สูง กำไรมากขึ้นเร็ว ก็ขาดทุน เร็ว ถ้าไม่เข้าใจระบบการลงทุน ที่มีคนเล่นจำนวนน้อย แต่ มีฝืมือระดับไม่ธรรมดา ที่มีความรู้เทคนิคอล อย่างดี ทั่วโลกมี 4 ประเภท
ตลาดอนุพันธ์ เมืองไทย (TFEX) มีสินค้า 2 ประเภท คือ สัญญาฟิวเจอร์ (Futures) หรือ สัญญาออปชั่น (Options) ที่ปัญหาคือ สภาพคล่อง นักลงทุนทั่วไทย ที่ลงทุน คือ สัญญาฟิวเจอร์ ประเภท Single stock Futures และ SET50 Index ที่นิยม ส่วน Options ก็มีพบบ้าง สภาพคล่อง ไม่มากนัก แต่ ส่วนตัว ไม่ได้ลงทุน จะลงทุนใน Options ต่างประเทศ มากกว่า ซึ่งมีสภาพคล่องสูง ลงทุนได้จำนวนมากกว่า ไม่มีปัญหาการซื้อ ขาย
ข้อดีของการลงทุน ตลาดฟิวเจอร์ มีดังนี้
แต่จะพูดถึงการเก็งกำไร TFEX จะใช้ เงินรักษาสัญญา ต้นทุนคงที่ สามารถทำกำไรได้เรื่อยๆ หากลงทุนอย่างเป็นระบบ ไม่ว่า จะเป็น Stock single Futures หรือ SET50 Index ซึ่ง กำไรจากการเก็งกำไร อาจจะเป็น การลงทุนแบบ Day trade หรือ ระยะสั้น กลาง (S-M-L Term) สามารถผันไปลงทุนในหุ้นในแบบต่างๆ ตาม Life styles ได้มากขึ้นอีก ตามรูป
สิ่งที่ต้องมีในการลงทุน TFEX
1. ความรู้เรื่อง สินค้าอนุพันธ์ รหัสสัญญา ระยะเวลา วันหมดอายุ เช่น KTBH12 , S50M12
2. ความรู้เรื่อง Technical analysis ด้วยความเข้าใจอย่างดี เข้าใจความคิดคู่แข่งในตลาด และ การวิเคราะห์แนวโน้มทิศทาง สินค้า อ้างอิงตัวแม่ (Underlying Asset) เช่น KTB Common stock, SET50 Index
3. มีระบบลงทุนที่เหมาะสม (System trading) ในช่วงเวลา (Time Frame) .ให้เหมาะสมการลงทุน เช่น Day Trade Short- Medium-Long term อาจจะใช้โปรแกรม Efinance หรือ Metastock ส่วนตัวใช้ Metastock มีความสะดวกกว่า
4. ระเบียบวินัยการลงทุน การวางแผน การ Stop loss อย่างเคร่งครัด
5. การจัดการเรื่องเงินทุน Money management and Risk management
ตัวอย่าง ระบบการลงทุน TFEX KTBM12 และ S50M12 ที่นิยมกัน ของนักลงทุนแบบเก็งกำไร
KTB Single stock Futures
ตารางผลตอบแทนการลงทุน
จาดตาราง จะเห็นได้ว่า ลงทุนเงินจริง จะทำให้ มีเงินลงทุนเสมือนมากขึ้น ถ้า Long position ถูกทางจะได้กำไรขาขึ้นมาก เมือเทียบเงินต้นที่ลงทุน ถ้า Short position ได้ถูกทาง ก็สามารถทำกำไรขาลงได้ด้วยเช่นกัน จำนวนมากเมื่อเทียบกับเงินต้น จากเงินลงทุนหลักหมื่น ลงทุน Long-Short ก็เพิ่มเป็นระดับแสนได้ แต่ ในขณะกลับกัน ถ้าผิดทางก็สามารถลงมากินต้นทุนจริงได้อย่างรวดเร็ว จนหมด หรือ ต้องเพิ่มเงินเข้าไปเพื่อรักษาสัญญา ดังนั้น ระเบียบวินัย เป็น สิ่งสำคัญ สำหรับการลงทุนที่เสี่ยงมากขึ้น
SET50 Index : S50M12
จากตัวอย่าง ถ้าลงทุน S50M12 1 สัญญา ใช้เงินลงทุนจริง 57,000 บาท ( ถ้า SET Index 800 จุด จะมีค่า 800,000 บาท หรือ จุดละ 1,000 บาท) ดังนั้น Leverage = 800,000/57,000 = 14 เท่า ถ้าถูกทางจะมีกำไรอย่างรวดเร็ว แต่ ถ้าขาดทุน ไม่มีจุด Stop loss จะทำให้เสียหายอย่างรวดเร็วเช่นกัน คือ สิ่งที่ต้องพึงระวังในการลงทุน เหมือนกัน
ผลตอบแทนการลงทุน เป้าหมาย การทำกำไร เดือนละ 60-80-100 จุด ต่อ สัญญา และมีการเพิ่มสัญญา 1-2-4 สัญญา
จะเห็น ว่า ถ้าลงทุนเป็นระบบ ด้วย "ต้นทุนคงที่" จะสามารถ ทำพอร์ตให้โตได้ ไม่จำกัด หรือ เพิ่มสัญญา
บทสรุป การลงทุน TFEX แบบเก็งกำไร ลงทุนด้วยต้นทุนคงที่ แต่ สามารถได้กำไรเติบโตได้อย่างไม่จำกัด ถ้ามีความรู้ ระบบการลงทุนที่ดี เหมาะสม เมือถูกทิศทางจะได้ กำไรอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก ลงทุนจริงใช้เงินน้อย แต่ เปรียบเสมือน มีเงินเสมือน จำนวนมากขึ้นหลายเท่าตัว (Leverage ที่สูง) ดังนั้น ถ้าถูกทาง จะได้ กำไรเทียบเงินต้น สูง แต่ ถ้าผิดทาง ก็จะขาดทุนมากเช่นกัน ถ้าไม่มีระบบการลงทุนที่ดี เพียงพอ ไม่มีวินัย Stop loss อย่างเคร่งครัด จะนำมาซึ่ง การขาดทุนอย่างรวดเร็ว หรือ ไม่มีการจัดการเงินที่ดีพอ (Money management) จะเสี่ยงต่อ ภาวะการ Force Sell หรือ Margin Call ซึ่งต้องนำมาเติม
การลงทุนต้องเริ่มด้วยสิ่งที่ง่ายไปยาก เน้นเอากำไรต่อกำไร ความรู้จะต้องมากกว่าความเสี่ยง จึงจะนำผลตอบแทนการลงทุนที่ดีครับ ลงทุนด้วยความพอเพียง ไม่ประมาท จึงเป็น แนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง ครับ
Ref: http://www.tfex.co.th/th/education/knowledge.html
No comments:
Post a Comment