North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Friday, February 25, 2011

แนวทางจัดพอร์ตการลงทุน หุ้นนอก หุ้นไทย แบบผสมผสาน สมองผมคิดอย่างไร



แนวทางจัดพอร์ตการลงทุนหุ้นนอก หุ้นไทย ผสมผสาน ผมคิดอย่างไร ไว้มาเล่าให้ฟังกัน   ก็อย่างที่รู้ว่า คำว่า อิสระทางการเงิน (Financial freedom) เป็นเป้าหมายของการลงทุนของนักลงทุน หรือ คนโดยทั่วไปนั่นเอง ถามว่า จะทำอย่างไรไปให้ถึงจุดนั้น เราสามารถลงทุนได้หลายอย่าง ผมจะเล่าแนวคิดการผสมผสานการจัดพอร์ตการลงทุนหุ้นนอก หุ้นไทย ว่าเป็นอย่างไร

ถามว่า เอ้า ผมเรียนวิดวะมา ทำได้หรือ ไม่ได้จบ MBA หรือ เศรษฐศาสตร์ ไม่ได้มีใบปริญญาเต็มๆ กับเขาสักใบ  แล้ว เจ้าสัว พัน หมื่นล้าน ที่จบ ม.4 ทำไมเขาร่ำรวยได้ละครับ พวกเขาเหล่านั้น มีความคิดที่ไม่ธรรมดากว่าคนทั่วไป เขาจึงประสบความสำเร็จนั่นเอง  ถ้าคุณเคยพบกับเพื่อนผมบางคน ที่เป็นตัวแทนนักเรียนไทย แข่งขันโอลิมปิค ที่เรียนปีเดียวกัน คุณจะรู้ว่า พวกเขาไม่ธรรมดา อ่านหนังสือรอบเดียว ก็ได้ A ออกข้อสอบมาก็ประยุกต์ทำได้หมด เขาเรียกว่า พรสวรรค์ แต่มีคนอีกพวกที่อ่านหนังสือหลายรอบ ก็ได้ A เหมือนกัน แต่เหนื่อยหน่อย เขาเรียกว่า พรแสวง  ส่วนตัวผมน่าจะจัด อยู่ในพวก พรแสวง มากกว่าครับ  โดยที่จริง หลายคณะเขาเรียน เศรษฐศาสตร์ทั่วไป  การเงินการธนาคาร การบริหารจัดการทั่วไป ในวิชาเลือกพิ้นฐาน ระดับ ป.ตรี  ถ้าสายวิศวกรรม อาจจะมี การบริหารความเสี่ยงในทางวิศวกรรม (Risk management) ด้วยอีกต่างหาก ผมก็เรียนเหมือนกัน แต่คนส่วนมากเรียนแบบท่องจำ ไม่เอาแก่นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ หรือ เรียนไปขอให้ผ่าน ให้ได้เกรด ให้ได้ปริญญาเท่านั้น ก็พอไม่รู้จักเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวันนั่นเอง

โดยส่วนตัว ผมจะชอบอ่านหนังสือบริหารจัดการและการลงทุน ดูแนวความคิดคนอื่นๆ ครับ วันนี้ จะขอเขียนแนวคิดของผมเอง ว่าสมองผมคิดอย่างไร คร่าวๆ ว่า เป็นอย่างไร ในการบริหารและการจัดพอร์ตการลงทุนของผมเอง แบบเล่าสู่กันฟัง   เล่นหุ้นนอก แล้วดียังไง ทำไมมาเล่นหุ้นนอกด้วย แค่เล่นหุ้นไทยก็พอแล้ว บางคนคิด หุ้นไทยผมก็เล่น แต่ ผมรอเวลาและจังหวะมากกว่า ผมมีทางเลือกมากกว่า ในการลงทุนซื้อหุ้นทั่วอเมริกาเหนือ ที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าหุ้นไทย บางอย่างนั่นเอง และในทางกลับกัน หุ้นไทยก็มีคุณสมบัติเด่นกว่า หุ้นนอก บางอย่างเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องนำข้อดีมาผสมผสานกัน อย่างมีระบบให้ได้ประโยชน์ต่อเราสูงสุดนั่นเอง

ก่อนจะวางระบบ เราต้องรู้จักข้อดีของหุ้นไทย หุ้นนอก กันหน่อย ว่า มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร จึงจะจัดระบบได้ดี

ข้อดี-ข้อเสียหุ้นนอก - หุ้นนอกมีระบบการจ่ายเงิน บันผลรายเดือน รายไตรมาส หุ้นนอกมีการจ่ายบันผลที่สูงกว่าหุ้นไทยหลายตัวมากกว่า 10%-18% ต่อปีก็ที่เคยมีมา แต่ หุ้นนอกราคาแพง การ Upside ใช้เวลานานและไม่ค่อยมากเท่าหุ้นไทย ตลาดใหญ่ เจ้าก็ปั่นกันลำบากนั่นเอง

ข้อดี-ข้อเสียหุ้นไทย - หุ้นไทยราคาไม่แพง มี Upside ระหว่างวันเยอะ ใช้เวลา Upside ที่รวดเร็วกว่า มีเจ้าคุม การจ่ายบันผล 1-2 ครั้งต่อปี ตลาดเล็ก อ่อนไหว ตามปัจจัยภายนอกได้ง่ายมาก การเติบโตอาศัย Fund flow เม็ดเงินของฝรั่งเป็นหลัก หรือ การเติบโตของกิจการเอง

ลองมาทำ Flow ของระบบดู (ลงทุน ลุยเอง เขียนเองเลยวันนี้) ตามภาพครับ



อธิบายภาพประกอบดังนี้  พอร์ตการลงทุนหุ้นผม แบ่งเป็น 2 ประเภท- พอร์ตการลงทุนนอก และ พอร์ตการลงทุนหุ้นไทย   โดยที่ พอร์ตลงทุนผมเป็นแบบ Margin account และ พอร์ตลงทุนหุ้นไทยเป็นแบบ Cash balance account

พอร์ตลงทุนนอก การลงทุนแบ่งเป็นดังนี้ครับ
- ลงทุนกิจการในอเมริกาเหนือผลตอบแทนมากกว่า 10% ต่อปี เน้นจ่ายบันผลรายเดือน   เป้าหมายผลตอบแทนอย่างต่ำ $1,000 ต่อเดือน หรือ > 31,500 บาท ต่อเดือน ( ยิ่งมากยิ่งดี ครับ ) มีกำไรก็มาซื้อเพิ่มไว้ ได้บันผล แถม ขนาดพอร์ต Margin จะเพิ่มใหญ่ขึ้นอีกด้วยครับ 2 เด้ง ( Margin account ได้ 70% ของหุ้นทั้งหมด บวก เงินสดรวมกันทั้งพอร์ต) และ ใช้พอร์ต Margin ซื้อ เสียดอกเบี้ย 5% ต่อปี แต่ เราซื้อหุ้นบันผลรายเดือน มากกว่า 10% ต่อปี อย่างไรก็ มีกำไรมากกว่า 5%  แถมหุ้นขึ้น เราใช้หลักทางเทคนิคขายหุ้นในราคาแพง เพื่อทำกำไรได้อีกด้วย แล้ว ค่อยกลับมาซื้อในขาลง ซึ่งมีราคาถูกอีกที

- ลงทุนหุ้นแนวโน้มขาขึ้นทางเทคนิค  โดยใช้บัญชี Margin ซื้อ เช่น หุ้น 100 บาท เราจะใช้เงินเราเพียง 30 บาทเท่านั้น อีก 70 บาทเป็นเงินมาร์จิ้น แต่ เราต้องเสียดอกเบี้ยรายเดือน ในอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ข้อดี ของพอร์ตนอก คือ ค่าคอมมิชชั่น Flat rate ($6.98-$29.99) สามารถเทรดได้ จำนวนเงินที่มาก ต่อ Lot ถ้าหุ้นขึ้น ไม่กี่ % ก็สามารถขายทำกำไรได้ทันที   เมื่อได้กำไรสะสมไว้ในพอร์ต ซื้อหุ้นบันผลเพิ่มเติม ได้เงินบันผลรายเดือนด้วย แถม ยังเพิ่มขนาดพอร์ต Margin ได้อีกด้วย ทำให้ขนาดพอร์ตใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตาม Flow ของระบบ  โดยเป้าหมายของการลงทุนหุ้นขาขึ้นทางเทคนิค  กำไรเฉลี่ยต่อเดือนอย่างต่ำ $3,000 ต่อเดือน หรือ ให้มากที่สุด (เป้าหมาย มีไว้ให้ชน ได้ไม่ได้อีกเรื่อง)

ที่สำคัญ คือ ต้องมีวินัยในการ Stop loss โดยโปรแกรมพอร์ตเมืองนอกจะมีคำสั่ง Stop order อัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยง ตั้งได้เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน


โดยทั่วไปเป็น หุ้นบริษัททั่วไป Common stocks เช่น ธนาคาร บ. ขุดทอง เงิน, หุ้น ETFs ทองคำ หุ้นเงิน เป็นต้น

ลองทำตารางคำนวนหุ้นบันผลรายเดือน บันผลรายเดือน > 10 % ให้ชมกันครับ ในระยะ 10 ปี มีผลจากบันผล ทบต้น ทบดอก มีผลตอบแทนอย่างไร (ลงทุนทำตางรางเองด้วย ลงทุนมากบทความนี้นะ)

ตารางคำนวนหุ้นบันผลรายเดือน บันผลรายเดือน > 10% ต่อปี



จากตารางจะเห็นได้ว่า  เราลงทุน 100% ในระัยะ 10 ปี มีผลตอบแทน 162%  โดยจะมีรายได้ประจำเดือนเพียงพอที่จะเป็น อิสระทางการเงินแบบพอเพียงได้เลย สำหรับ พอร์ตขนาด $100,000 หรือ 3 ล้านบาท แต่จะมากกว่านั้น ถ้าเราดูกราฟทางเทคนิคประกอบด้วยไว้ ซื้อถูก ขายแพง

-พอร์ตการลงทุนหุ้นไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ลงทุนหุ้นบันผลสูง ในระยะยาว และ ลงทุนหุ้นทำกำไรตามทางเทคนิค ระยะสั้น ระยะกลาง หรือ เล่นตามรอบ

ลงทุนหุ้นบันผลสูงแบบ VI (Valued Investor)  เน้นการบันผลที่สูง ธุรกิจมีการเติบโตในระยะยาว มีการ Upside เก็บของจังหวะ ของถูก ๆ มักมีในยามวิกฤต หุ้นที่มันเงียบๆ เขาไม่ค่อยสน แต่ มีอนาคต ต้องมองหาให้ออก พวกนี้จะกำไรแบบก้าวกระโดด เหมือน นักลงทุนแบบ Valued Investor ที่ประสบความสำเร็จเป็น ร้อยล้าน พันล้าน

ลงทุนหุ้นทำกำไรทางเทคนิค  -เข้าเล่นตามสัญญานตาม Fund flow ของฝรั่ง  หรือ ตามสัญญานซื้อและ Volume  โดยเล่นรอบหรือ เฝ้าหน้าจอ ขาขึ้น Uptrend ผมอยู่เมืองนอกก็เล่น แต่ช่วงนี้ สุขภาพ พักผ่อนไม่เพียงพอเลย เบา เบาหน่อย ตลาด Sideway ซะเยอะแล้ว กลับเมืองไทยคงเน้นหุ้นบันผลสูงในระยะยาวมากกว่า

โดยส่วนตัว ผมทำกำไรหุ้นนอกได้ดีกว่าเยอะมาก ด้วยวิธีฟังก์ชั่น Stop loss และ Protect profit โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ที่เคยเขียนในบทความก่อน ด้วยรูปแบบการเล่น เหาฉลาม  จึงเน้นการลงทุนที่หุ้นนอกมากกว่า ด้วยค่าเทรด Flat rate $6.98   (มาร์ผมคงน้อยใจหรือเปล่า ก็ไม่รู้นะ อย่าน้อยใจนะครับ ขอโทษด้วย)

โดยสรุป การลงทุนในหุ้นนอกและหุ้นไทย ข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน เป็นเพียงแนวทางที่แนะนำในการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง และ เพิ่มช่องทางการลงทุนในตลาดหุ้นอื่นนอกจากตลาดหุ้นไทยอย่างเดียว แบบผสมผสานให้เกิดกำไรสูงสุด ตลอดเวลา ไม่ได้รอ Fund flow กันอย่างเดียว ดังนั้น การบริหารจัดการระบบการเงิน (Money management) เป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนสำหรับ นักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ วางเงินไว้ตรงไหน แล้วมันโต โดยใช้เวลาที่ไม่นาน  โดยเน้นไปที่การลงทุนที่เหมาะสมกับ Life style ของตัวเอง ไม่เพียงแต่หุ้น ยังรวมถึงการลงทุนอื่นๆ  คงอาจจะเคยที่ได้ยินคำพูดว่า  " 1 นาที ของแต่ละคนมีค่าไม่เท่ากัน" นั่นเอง

บทความต่อไปจะแนะนำ โปรแกรมเทรดหุ้นนอกของเมืองไทย ดี ดี มีฟังก์ขั่น Stop order ด้วยให้ชมกัน

2 comments:

  1. ขอบคุณครับ

    ReplyDelete
  2. ผมอยากลงทุนหุ้นนอกเหมือนพี่ผมต้องไปเปิดพอร์ตหุ้นได้ที่ไหนครับ

    ReplyDelete