กลยุทธ์เล่นหุ้นแบบหยอดกระปุกหมู เป็นอย่างไร มาเล่า แนว ...แนว ให้ฟังกัน ^-^
เคยได้ยินประโยคนี้ ไหมครับ "มีสลึงพึง บรรจบให้ครบบาท" มีหุ้นไม่ถึงบาท พึงรอให้ครบบาท มีหุ้น 3 บาท ก็รอให้ครบ 10 บาท อันหลังนี้ แต่งเองครับ อ้าว ฟังแล้ว มันเกี่ยวกับการเล่นหุ้นด้วยเหรอ มันเกี่ยวอย่างไร ขายหมู กระปุกหมู ก็ประมาณนั้น สำหรับผู้เริ่มต้น ที่ไม่มีเงินเป็นถัง อยู่แล้ว ต้องคงเริ่มทำแบบนี้ ก็น่าจะดี มันเป็นแนวของผมที่ใช้กับการลงทุนทั้งต่างประเทศและในประเทศ ที่เริ่มจาก 0 ที่ใช้ได้ จริง จริง เคยมีเพื่อนใน Facebook ถามว่า ถ้าไม่มีเงินลงทุนเยอะ จะเล่นหุ้นให้มีกำไรเยอะ เยอะ ให้เงินงอกเงยได้ไหม คำตอบ คือ ได้ วันนี้ มีคำตอบให้
การจัดการเงิน (Money management) เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเรียนรู้ วางเงินตรงไหน แล้วโต วางเงินจำนวนเท่าไหร่แล้ว มันงอกเงย สิ่งพวกนี้ นอกจากความรู้ในการลงทุน จำเป็นมาก ใน Blog นี้ การลงทุนจะเป็นแบบ วิเคราะห์พิ้นฐานเป็นเกราะ วิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอาวุธ ไม่ว่า หุ้นไทย หุ้นนอก เหมือนกัน ไม่มีอะไรแตกต่าง ลองหาอ่านดูย้อนหลังได้ครับใน Blog นี้แหละครับ
เข้าเรื่องดีกว่า ว่า ลงทุนแบบหยดกระปุกหมูทำอย่างไร การเริ่มต้นในการลงทุน สิ่งแรกที่ควรทำ คือ การเก็บออมเงิน จะเก็บจากการเป็นลูกจ้าง หรือ การเก็บออมความรู้ ด้วยการศึกษาหาความรู้ ในสิ่งที่อยากรู้ จากสิ่งที่ไม่มี ยิ่งไม่รู้ ยิ่งต้องอ่าน อ่านให้รู้ จึงค่อยลงทุน ถ้าไม่ได้มีเงินถังติดตัวมา มีก้าวแรก ก็ต้องมีก้าวที่สอง ..... สุดท้ายก็ไปถึงเป้าหมาย แบบคนสมัยก่อน ที่ทุกวันนี้ ก็ ร่ำรวยกันเกือบหมดแล้ว ถ้าเราไม่รู้จักการอดออม หยดกระปุก ก็ไม่มีอะไรไปลงทุน ให้งอกเงย จะรอเป็นลูกจ้าง เอาเงินฝากในธนาคาร รอกทานดอกเบี้ย คงไม่เหมาะแล้ว สำหรับ ยุค 2000 นี้ มันช้า เวลา มีจำกัด ไม่ลงทุน ไม่เก็บออม เมื่อไหร่ จะมี สิ่งที่จำเป็น ที่ต้องมี คือ เงินลงทุน และ ความรู้ ที่หยอดกระปุกหมู พร้อมที่จะลงทุน เพื่อชีวิตที่ดีชึ้น และ ความมั่งคั่งในอนาคต หรือ ไปหาคนสอน คนแนะนำ ก็จะลดระยะทางเดินได้ เร็ว กว่า ที่จะลอง ผิด ถูก ด้วยตัวเอง บอกเลย ว่า เสียเยอะ กว่าจะเก่ง
ก็อยากที่เคยได้ยิน การลงทุนมีความเสี่ยง (ไม่เสี่ยงแล้วจะมีเหรอ ขำ ขำ อีก) แต่ เราลดความเสี่ยงได้ ในการลงทุน ทำอย่างไร วันนี้ มีแนวคิดให้ ผมคิดเอง ไม่ได้ลอกการบ้านใคร ในการลงทุนตลาดหุ้นไทยหรือ ต่างประเทศก็ตามแต่ เรามีวิธีบริหารเงินทุนที่เราหยอดกระปุกหมูไว้ให้มันงอกเงิน การลงทุนจะแบ่งเป็นหุ้นบันผลในประเทศและต่างประเทศ ผมได้เคยเขียนไว้ในแนวทางการจัดพอร์ตของผมใน Blog ตาม Link นี้ได้ http://nastocks.blogspot.com/2011/02/blog-post.html
ในเรื่องของการซื้อหุ้นลงทุนเอาบันผล ระยะยาว คงจะไม่พูด แบ่งพอร์ตมาเล่นแบบระยะสั้น กลางบ้าง ต้องเล่นหุ้นพื้นฐาน บวก แบบเทคนิคด้วย แต่การลดความลดเสี่ยง ค่อยๆ เล่น แบบหยอดกระปุ๊กหมู วันละร้อยบาท หรือ หลักพันบาท ทุนเยอะ ก็หลักหมื่นได้ ก็ทำได้ โดยคำนึำง ถึง กำไรสะสมเป็นหลัก ค่อยๆ ทำกำไรไป รวมไปเรื่อยๆ จากกระปุกหมู ตัวเล็กๆ ให่เต็ม เปลี่ยน กระปุกหมู ให้ใหญ่ขึ้น จนเป็น ตุ่ม เป็น โอ่ง ไงละครับ ใครจะว่า เราขายหมู ก็ว่าไป มีกำไร ดีกว่า ขาดทุนเสมอ แต่ ที่สำคัญ เรามีกำไรทุกวัน เอามาสะสมแบบหยอดกระปุก เดี๋ยวมันก็เยอะ เล่นได้ทุกวัน เข้าตัวนู้น ออกตัวนี้พอเยอะ เราก็เปลี่ยนขนาด ของการลงทุนในแต่ละครั้งได้ขนาดใหญ่ขึ้น แต่ ก่อนเทรดครั้งละพัน ต่อมาเป็นหลักหมื่น ต่อมาเป็นหลักแสน ขึ้นกับชั่วโมงบิน ความชำนาญ และ ความรู้ทางเทคนิคที่มี ไม่ว่าจะเป็น EMAs,MACD,RSI,BB,Volume,MACD Histogram , Fibonacci หรือ Elliott wave ก็แล้วแต่ตัวช่วย กำไรสะสมก็จะมากตาม ยังไม่เข้าใจ หาที่เรียนซะนะครับ อย่าให้การขาดทุนเป็นประสบการณ์
ที่สำคัญ ที่สุด คือ การ Cut loss ทุกครั้งที่ จะส่งคำสั่งซื้อ ต้องมีเป้าหมายในใจว่า กำไรพอใจเท่าไหร่ หรือ จะยอมรับการ Cut loss ได้กี่ % ซึ่งแตกต่างขนาดของเงินลงทุน สมมุติ ว่า เราสะสมกำไรสะสมเยอะแล้ว เป็นตุ่ม จะทำให้เราตัดขาดทุนได้ ง่าย สบาย สบาย เหมือน น้ำที่หายไปจากตุ่มเพียงเล็กน้อย เข้าผิดตัว ผิดจังหวะ ต้องทำใจนะครับ ต้องรู้จักถอย มันเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงในตลาดหุ้น จะลงทุนได้ดี ต้องรู้จักพอเพียง ไม่ยึดติด หุ้นมีหลายตัว หาตัวอื่นเล่นจังหวะขาขึ้น หรือ กลับตัวได้ทุกวัน ยกตัวอย่างเช่น หาโดยวิธี Most active ตามเคยเขียนไว้ http://nastocks.blogspot.com/2011/02/set-most-active.html
ลองทำบันทึก กำไร ขาดทุน กำไรสะสม ในแต่ละเดือน ดูครับ (ของจริงเลย จากการเล่นหุ้นนอก) จะเห็นภาพ ว่า เงินลงทุน โต ขึ้น จริงๆ แต่ ต้องมีวินัยในการลงทุน (Cut loss) ถึงแม้จะ Loss แต่ภาพรวม เงินลงทุนเราโต เห็นมั้ยครับ จะยากช่วง แรก แรก ที่สะสมกำไร ก็เท่านั้น
สำหรับการจัดการเงิน (Money management) มีวิดีโอจาก แม่งเม่าคลับมาให้ชม (ขออนุญาติแชร์ เพราะแปลสับไทย) อาจจะเป็นตัวอย่างที่ ดี ดีให้ชมได้ดังนี้
เมื่อไหร่ ที่เราหยอดกระปุกหมู ให้เป็นตุ่มเป็นโอ่งแล้ว เมื่อเราตัดขาดทุน Cut loss มันนิดหน่อย เอง มันทำให้เราสบายใจขึ้น คราวหน้ายังมีแก้ตัว ขอให้มีทุนเหลือ ไม่ใช่ติดหุ้น หรือ ติดดอย ซึ่งหมายความว่า การลงทุนแบบหยอดกระปุกหมู ต้องใช้เวลา อย่าใจร้อน ถ้ามีทุนเยอะ ก็แล้วไปครับ ตุ่มอาจจะกลายเป็น บ่อ ได้อย่างรวดเร็ว เล่นแบบมีระเบียบ วินัยด้วยการ Cut loss มีกำไรให้ขาย จะได้มีทุนเพิ่ม ขนาดจะเพิ่มขึ้น กำไรสะสม เพิ่ม ทำไปเรื่อย ๆ ยังไงก็มีกำไร เล่นหุ้นขาขึ้น ซื้อหุ้นกลับตัว แน่นอน ก็มันกำไรแน่นอน ...ค่อยเป็น ค่อยไป สำหรับเริ่มผู้ลงทุนนะครับ ถ้าเป็นเซียนแล้ว ลงทุนต้องไร้อารมณ์ ไม้ใหญ่ๆ ก็แทบไม่รู้สึกอะไร มองเห็น ตัวแดง จะเป็น สีเขียว แทน ขำ ขำ ถ้า กำไรสะสม เราเยอะ จริงมั้ยละครับ