สวัสดีปีใหม่ 2012 ครับ (ช้าหน่อย) มาอีกครั้ง แต่ ตอนนี้อยู่ ประเทศ แคนาดา แล้ว ตั้งแต่ 17 เมษายน 2555 ตามแผนงานในชีวิต มาเขียนย้อนหลัง Update ให้ในเชิงเล่าสู่กันฟัง มีความรู้สึกว่า มีคนติดตามกับการเริ่มสอนในการสอนคนลงทุนให้มีกำไร..ด้วยการลงทุนอย่างมีระบบ....มีการนำเสนอระบบความคิดแปลกๆ (ความคิดแปลกแน่ ไม่แปลก ก็คงไม่มาไกล ถึง แคนาดา นะครับ) ขอช่วยคนแบบเงียบ ๆ ดีกว่า (Low profile High profit)
ที่สอนไปมีตั้งแต่ พอร์ตร้อยล้าน สิบล้าน คนที่ลงทุนเก่ง มีกำไรอยู่แล้ว มือใหม่ คนขาดทุนสะสม...นักลงทุนเด็ก จนถึง นักลงทุนวัยเกษียร..จำนวนหลายร้อยคน เรียกว่า เป็น กองทัพ ได้ทีเดียว สอนคนมีกำไรอยู่แล้ว ไม่ค่อยประทับใจ ไม่ท้าทาย ไม่ภูมิใจกับการถ่ายทอดและมอบผลึกความรู้ให้ ที่เขียนว่า "ผลึกความรู้" เพราะ ผ่านการคิด ออกแบบระบบ จากการลงทุนที่มีกำไรแล้ว พิสูจน์แล้วว่า คิดเป็นระบบ สามารถลงทุนมีกำไรสะสม มากกว่า ขาดทุนสะสม แน่นอน มอบให้คนขาดทุนสะสม ที่ต้องการใช้จริงๆ มีความเหมาะสมก่อน น่าจะดีกว่า
จากสถิติ ประเภทการลงทุน จำนวนนักลงทุนที่สอนไป แบ่งได้ดังนี้
จะเห็นได้ว่า สัดส่วนคนสนใจลงทุนต่างประเทศ เยอะนะครับ ไม่น้อยทีเดียว แต่ อย่างไรก็ตามควรลงทุนให้ พอร์ตไทยเขียว ก่อนครับ ลงทุนจากง่ายไป ยาก เอากำไร ต่อ กำไร ตามแนวทางการพัฒนานักลงทุน สามารถลงทุนต่างประเทศ ขอมอบความรู้การลงทุนมีอยู่ให้ ให้มีความสามารถทัดเทียมฝรั่ง ซึ่งน่าจะเป็นขั้นตอน Step by Step ต้องใช้ ความรู้ เวลา และ การฝึกฝน ได้ดังนี้
ปีใหม่ 2012 ไป Countdown ที่ Phuket กับ กลุ่มเพื่อน RE-CU ครับ เป็นการลงภาคใต้ในครั้งแรก สิ่งที่เห็น คือ เมืองไทยเรา ก็มีทะเลที่สวยงาม ทีเดียว อาหารอร่อย ไม่ได้แพ้ เกาะบาหลี ประเทศ อินโดนีเซียเลย เอาภาพมาฝากกันครับ
กลับมาเรื่อง การลงทุน ด้วยการเริ่มสอนคน จึงมีความรู้และประสบการณ์การลงทุนเมืองไทยเพิ่มอย่างรวดเร็ว คือ มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ช่วยกันแชร์ข้อมูลลงทุน ผมเชื่อในเรื่องของความคิดของกฏของแรงดึงดูด คนที่คิดเหมือนกันจะมาถูกดึงดูด มาเจอกันเอง สักวันหนึ่ง สิ่งที่ได้จากการสอนคน คือ การลงทุนเพิ่มในตลาดอนุพันธ์ หรือตลาดฟิวเจอร์ (TFEX) อีก 1 รูป แบบ
กลับมาเมืองไทย ไม่มีความรู้ในการลงทุนแบบนี้เลย ที่มีติดตัวมา จากการลงทุนต่างประเทศ คือ วิชา Technical analysis มาจากดินแดนฝรั่ง ที่ลงทุนได้ 2 ขา คือ Long สภาวะกระทิง Short สภาวะหมี (หมีขาว)
สิ่งแรก ที่ เราต้องมี คือ ความรู้เบื้องต้น ผลิตภัณฑ์ สามารถอ่านความรู้เบื้องต้นได้ที่ http://www.tfex.co.th/th/education/knowledge.html
ผลิตภัณฑ์ที่นักลงทุนทั่วไปนิยม คือ การลงทุนใน SET50 Index -S50 ,การลงทุนใน Stock single เช่น KTB หรือ Gold/Silver future ที่มีเวลาหมดอายุ เป็นสิ่งจำกัดของสัญญา
สี่งที่ สอง ที่จะต้องรู้ ประเมิน คู่แข่งเรา คือ ใคร เป็น คำถามที่เราต้องรู้ (ตลาด TFEX ไม่หมู ให้เคี้ยวแน่นอน)
1. พวก Prop trade มุ่งหวังกำไร ไม่ใช่คนเดียวที่เห็น ที่เขียนหนังสือ น้องพีร์ 7 เทคนิค ฟันกำไรหุ้นเดย์เทด เคยเจอตัวเป็นๆ ซึ่งเป็นเพื่อนของเพื่อนรุ่นน้อง RE-CU อีกที (โลกมันแคบ จริง จริง)
2. พวกนักลงทุน ฝรั่ง ที่รู้วิธีการใช้ Technical analysis เป็นอย่างดี มุ่งหวังกำไร
3. พวกนักลงทุนรายย่อย เน้นว่า ไม่ใช่ แมงเม่า แต่เป็น แมงมุม ทึีคอยจับแมงเม่าทาน ด้วย วิชา Technical analysis มุ่งหวังกำไร
รู้ไปทำไมกัน ในการแข่งขัน สนามใด ก็แล้วแต่ "สิ่งที่ต้องรู้ คือ รู้เขา รู้เรา รบร้อย ชนะร้อย" ถ้าคุณไม่เข้าใจความคิดเขา ไม่เข้าใจเครื่องมือที่เขาใช้ ทำกับ โอกาสแพ้ อย่างชัดเจนนะครับ
ที่เคยสอนมา มี พี่น้องที่ลงทุนขาดทุนมา หลักหมื่น 5-8 แสนบาท ก็มี ด้วยเนื่องจากไม่มีระบบการลงทุนที่เหมาะสม ขาดความรู้ทาง Technical analysis ในการวิเคราะห์ คู่แข่ง มาร์เก็ตติ้งเป็นคนดำเนินการให้โดยที่ตัวเองไม่มีความรู้ หรือ คนที่อยากมีกำไรทีเห็นว่า ทำกำไรง่าย แต่ ไม่มีระบบนำทางที่ดีเพียงพอ
ตลาดอนุพันธ์ TFEX ตามความเข้าใจ มีไว้ 2 รูปแบบ คือ
1. ใช้ป้องกันความเสี่ยง ( Hedging) เช่น เรามีพอร์ตหุ้นที่กระจายน้ำหนัก มีอยู่ใน SET50 กลัวว่า ตลาดหุ้นจะตกทำให้เราขาดทุน เราจึง Short S50 ไว้ด้วยเพื่อให้ได้กำไรเวลาตลาดหุ้นตกมาเฉลี่ยขาดทุนที่เกิดขึ้นให้เกิดกำไรบวกสะสมเพิ่ม
2. ไว้ทำกำไรแบบเก็งกำไร (Speculating) สิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่นิยมทำกัน คือ การเก็งกำไรโดยคำนึงถึงทิศทางตลาดหุ้น SET50 Index ว่าตลาดหุ้นน่าจะขึ้นและลง (Directional Trading) ที่จะทำการซื้อ (Long) หรือ ขาย (Short)
สิ่งที่แนะนำ ในบทความนี้ ใช้ป้องกันความเสี่ยง ( Hedging) สำหรับ การลงทุน SET50 Index ที่ทำกำไรได้ขาขึ้นและลง
ตัวอย่าง การลงทุนตลาดหุ้นไทย ใน SET50 Index : SET50 เทียบ สัญญา S50H12
จะเห็นได้ว่า SET50 Index มีความสัมพันธ์กับ สัญญา S50 ไปในทางเดียวกัน
การใช้ SET50 Index futures ใช้ป้องกันความเสี่ยง ( Hedging) แสดงแนวคิดเป็นตารางตัวอย่างให้ดูดังนี้
จากตาราง จะเห็นได้ว่า สามารถใช้จำนวนเงินลงทุนจริงที่ น้อยลงมากกว่า 10 เท่า ในการควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตหุ้น ในกรณี หุ้นตก ซึ่งสามารถหักลบการขาดทุนได้ หรือ ช่วยเพิ่มกำไรในการลงทุนเพิ่ม
บทสรุป สำหรับ การลงทุนตลาด TFEX : SET50 Index ไม่ว่า การลดความเสี่ยงในการลงทุน หรือ การลงทุนแบบเก็งกำไร สำหรับนักลงทุน ต้องมีความรู้ ความเข้าใจ Technical analysis เป็นอย่างดี ว่าจังหวะไหน ตามสัญญาเข้าซื้อ (Long) หรือ ตามสัญญาขาย (Short) อย่างมีด้วยระบบ ที่ออกแบบที่ดี และมีการ Stop loss อย่างถูกวิธี สามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้ นั่นหมายถึง การลงทุนที่มีผลตอบแทนที่ดี ขึ้นแน่นอนครับ
สำหรับการลงทุนแบบเก็งกำไร จะเขียนในบทความต่อไป ที่สามารถทำกำไรแบบพอเพียง ที่ต้นทุนคงที่อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการลดต้นทุนในการลงทุน หรือ การเพิ่มพอร์ตลงทุนเสมือนมีเงินจริง ให้อ่านครับ
SET50 Index
Single Stock futures