จบไปแล้วสำหรับ การเรียนบริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เรียนในสิ่งที่ไม่รู้ ให้มีความรู้ มีเกราะไว้ป้องกันตัว การลงทุนความรู้ เป็นการลงทุน เป็นทรัพย์สิน ติดตัวที่ใครก็แย่งไปไม่ได้ น่าลงทุนอย่างยิ่ง หรือ แม้กระทั่ง การศึกษากระบวนการคิดของความรู้ของผู้อื่น หรือ เรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น จะช่วยลดเวลาการศึกษาของตัวเอง "คนฉลาด มีวิสัยทัศน์ จะเรียนรู้จากผู้อื่น ไว้ป้องกันความเสียหายของตัวเอง" บางคนอาจจะคิดว่า จบโทวิศวะ สอนคนลงทุนในหุ้นได้อย่างไร การเรียนวิศวะ นั้น สอนให้คิดแบบระบบ (Systematic thinking) มีเหตุมีผล (Logical/Reasonable) และ สามารถค้นคว้าเองได้ (Researchable) มีตัวอย่าง กูรู เซียนหุ้น ที่มีชื่อเสียง ให้เห็นหลายคนนะครับ อีก 1 ความภูมิใจที่เรียนด้านบริหารที่คว้า กลุ่มที่ 1 Final RE-CU project จบ ว่า บทพิสูจน์ว่า ในเชิงด้านบริหารธุรกิจก็พอทำได้ ในการวิเคราะห์ Demand/Supply ของธุรกิจที่ไม่ได้ต่างไปจากการลงทุนในหุ้น "การลงทุนในหุ้น คือ การทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ไม่ใช่การพนัน "
ใครจะมา ไม่มาก็แล้วแต่พวกเขามีความสามารถใช้วิจารณญานเอง มาแต่ละคนดูแล้ว ก็ไม่ธรรมดากัน มีทั้ง หมอ วิศวกร นักการเงิน เจ้าของธุรกิจ พี่น้องที่จบ MBA,Finance ทั้งในและนอกประเทศ (ขอขอบคุณทุกคนที่เชื่อมั่นว่าสอนให้ได้) ส่วนใครมาหาผมแล้ว ลงทุนไม่มีผลตอบแทนได้ค่าเรียนคืน ผมคืนค่าเรียนให้หมด ก็ได้บอกทุกคน บางคนสอนซ่อมให้ ให้คำปรึกษาห้องเรียน Facebook หลังเรียนอย่างต่อเนื่อง ค่าเรียน ส่วนหนึ่งไปทำบุญการศึกษา ตามใจผมเอง จะงอกเงยด้วยการลงทุนตามที่บอก โดย วันเด็ก วันที่ 14/1/2012 จะมีให้ทุนการศึกษาเด็ก ร่วมกับ โครงการต้นฝัน ปีที่ 8 และ ส่วนหนึ่งได้ ตั้ง กองทุนการศึกษาที่ RE-CU อีก 1 โครงการ มีการบริจาคทุนอย่างต่อเนื่อง กับ กลุ่มเพื่อนๆ ใน RE-CU
มาเรียนรู้การใช้เทคนิคคอล ที่เรียกว่า "Divergence" กับช่วยบริหารการลงทุน ใช้เตือนความพร้อม โดย Divergence คือ สัญญานขัดกันในระหว่างแนวโน้ม จะมี 2 แบบ คือ Bullish Divergence และ Bearish Divergence
Bearish divergence เป็นสัญญาณขัดแย้งของขาขึ้นบ่งบอกว่าหุ้นใกล้จะลงแล้วคือเมื่อเวลาหุ้นขึ้น มี new high แต่ สัญญาณ indicator เช่น rsi macd stochastic ไม่เกิด new high
Bullish divergence เป็นสัญญาณขัดแย้งของขาลงบ่องบอกว่าหุ้นใกล้จะขึ้นแล้ว คือ เมื่อเวลาหุ้นลง มี new low แต่สัญญาณ indicator เช่น rsi macd stochastic ไม่มี new low ตามไปเช่นเดียวกันกับ bearish divergence
มาชมตัวอย่างให้เข้าใจกันมากขึ้นนะครับ
หุ้นไทย : SVI
จะเห็นได้ว่า ยอดราคาของ SVI สูงขึ้น แต่ ยอด RSI หรือ MACD ไม่ได้สูงขึ้นตาม ขัดกันกับราคา แสดงให้เราต้องลงทุนด้วยความระมัดระวัง ใส่ใจมากขึ้น ว่า ราคามีแนวโน้มปรับตัวลง จะขาย หรือ จะเตรียมพร้อม Short sell ก็สามารถพิจารณาทำได้
หุ้นต่างประเทศ VXX
จากภาพ กรณี Bullish Divergence ราคาของ VXX ต่ำลง แต่ ยอด RSI หรือ MACD สูงขึ้น หรือ มีทิศทางขัดกัน เป็นสัญญานเตือนให้เตรียมเข้าซื้อหุ้น จะเห็นว่า ผลตอบแทนมากกว่า 100% ทีเดียว กรณี Bearish Divergence ราคาของ VXX สูงขึ้น แต่ ยอด RSI หรือ MACD ขัดกันมีทิศทางต่ำลง เป็นสัญญานเตือนเตรียมให้พิจารณาขายหุ้นทำกำไรไปก่อน
บทสรุป การเข้าใจสัญญาน Divergence ทางเทคนิค ไม่ว่าจะเป็น Bullish Divergence หรือ Bearish Divergence สามารถช่วยเตือนการลงทุนให้ระวัง ไม่ประมาท เตรียมความพร้อมในการซื้อ หรือ ขายทำกำไร เพื่อให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้นได้อย่างพอเพียงทีเดียว
บทความสุดท้าย ของปีนี้ ขอให้ผู้ติดตาม Blog มีความสุข ประสบความสำเร็จการลงทุนและทุกด้าน สุขภาพแข็งแรง มั่งมีเงินทอง "สุขสันต์วันปีใหม่ 2012" ตั้งใจเขียนบทความส่งท้ายปีเก่า 2011
ส่วนเป้าหมายในปี 2012 ของผมนั้น คือ การลงทุนด้าน Options ในหุ้นต่างประเทศ ลด Cost การลงทุนแบบ Limited Loss, Unlimited profit ในความท้าทายใหม่ โดยแนวความคิดแบบ Global fund manager ที่มีการบริหาร Assets allocation ที่ดี, การบินกลับ Canada เพื่อเป็นสัญชาติ Canada เพิ่มอีก 1 สัญชาติ รวมทั้ง การเปิดประตูทางธุรกิจระหว่างประเทศไทย และ แคนาดา เพื่อพิสูจน์ท้าทายความสามารถกันอีกครั้ง และสามารถช่วยคนไทยได้อีกมาก ทดแทนการสูญเสียธุรกิจร้านอาหารไทยในแคนาดา จากความผิดพลาดทางธุรกิจ ถ้าเรามีความรู้ ลงทุนเป็นระบบ ลงทุนได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ Anywhere Anytime Around the World ได้ผลตอบแทนที่ดีได้ครับ ใครที่ยังไม่มีเป้าหมาย ลองวางแผนกันดู แล้วทำตามแผนงาน จะมีสิ่งดี ดี เกิดขึ้นเพิ่มในชีวิตกันครับ โชคดีปีใหม่ พักผ่อน เที่ยวให้สนุก เดินทางปลอดภัย แล้วเจอกัน บทความปีหน้าฟ้าใหม่ 2012 "You'll never walk alone, I'm always with you "
