North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Wednesday, August 24, 2011

โครงการต้นฝัน บันน้ำใจ สิ่ง ดีดี ที่เรียกว่า การให้ กับการเรียนรู้วิเคราะห์ทางเทคนิค

                                      

                                                โครงการ ต้นฝัน ปี 3 (2549)

                                                   โครงการต้นฝัน 4 (2550)


                                       ผู้รอคอยความช่วยเหลือ (ถ่ายเองกับมือ)


2551-2553 อยู่แคนาดา โครงการต้นฝัน 8 (2554) มาแน่นอน ปลายปีนี้

วันว่าง ส-อา ได้สอน Stop working class ลำดับที่ 29-32 ให้ สองพี่น้อง ลูกเจ้าของธุรกิจเดินเรือ  2 น้องสิงห์ดำ ไม่เคยลงทุนในหุ้นมาก่อนเลย  น้องเจ้าของธุรกิจ ร้านอาหาร  ดีครับ เวลาทุกคนมีจำกัด มีเงินลงทุน มีความรู้ ลงทุนเพิ่มได้ ความรู้ที่ดี ต้องมาก่อน การลงทุนทำธุรกิจ จะลดความเสี่ยงได้อย่างดี และ Mao platinum class  ลำดับที่ 33-36 ให้ พี่ผู้ตรวจบัญชี CPA 2 คน พี่ TRUE และ น้องมือใหม่
เป็น ผู้ลงทุนในตลาดอยู่แล้ว แต่ ไม่เคยเรียนรู้กราฟเทคนิคมา ในการเข้าซื้อ ขายหุ้น ทำให้ติดดอย หรือ ขาดทุน  เอาตัวรอดจากตลาดไม่ได้ดี  จึงมาเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค เพิ่มครับ  แนวทางที่ผมใช้ คือ "วิเคราะห์พื้นฐานเป็นเกราะ วิเคราะห์เทคนิคเป็นอาวุธ" ในการลงทุน มีการจัดการระบบการเงินและความเสี่ยงในการลงทุน ( Money and Risk management )

การสอน มีความตั้งใจว่า จะทำกองทุน ช่วยการศึกษาเด็ก จากการสอน ลงทุนเงินต่อเงิน เอามาช่วยเด็ก จะไม่หมด ไม่ได้ให้แล้วหมดไป ผมลงทุนได้ทั้ง ต่างประเทศ และ ในประเทศ ด้วยการจัดการพอร์ตการลงทุน  เงินไหลไปไหน ผมตามไปตลอด ตามจังหวะ และ แนวโน้มของการลงทุนในโลก  มีความตั้งใจว่า จะสอนเพียง 40 คน เพื่อดูว่า ระบบที่ใช้ ระบบการเล่นที่มีระบบ สามารถทำให้ผู้เรียนมีชีวิตดีขึ้นมั้ย ถ้าดีขึ้น ก็แสดงว่า ไม่ได้ มีผลกับผมคนเดียว แต่ สามารถนำไปเผยแพร่ ช่วยคนขาดทุน ลงทุนอย่างไม่เป็นระบบได้ ชีวิต เขาดีขึ้น เราก็ดีใจด้วย   ความประทับใจรวบรวมเบื้องต้นได้ ครับ สอน หมอ วิดวะ เจ้าของธุรกิจ เด็ก 18 ขวบ ก็สอนได้ ตาม Link http://nastocks.blogspot.com/2011/11/stop-working-too-you-still-can.html

หลายคน ดูแคลนกันเหลือเกิน ว่าเป็นใคร ลงทุนประสบความสำเร็จแล้วหรือแล้ว มาสอนคนอื่น (อาจจะไม่มีพอร์ตร้อยล้าน พันล้าน ...เงียบ เงียบ ไป เถอะ อย่ามาสอนคนเลย แต่ พอร์ตผมเริ่มจากศูนย์ มาเป็นหลักหลายล้าน กำลังเติบโตเท่านั้น รอเวลา และจังหวะ ของผมบ้างเท่านั้น ผมทำได้อย่างไร คือ สิ่งที่ผมจะถ่ายทอด แนวทางความคิดออกมา บางคน คิดว่า เราไม่มี คงไม่มี ทั้งชีวิต ไม่ใช่ (ถ้าคุณเปลี่ยนความคิด ชีวิตคุณจะเปลี่ยน) ขอทำความเข้าใจว่า ผมลงทุนในต่างประเทศกับพวกฝรั่งมาก่อน พอร์ตผมโตในดินแดนของฝรั่ง แล้วมาลงทุนในหุ้นไทย ในช่วงขาชึ้น แต่ มีคนให้ช่วยสอนลงทุน ก็ลองสอนให้ ( คนที่มาเรียน เขาอยากมีความรู้ในการลงทุนต่างประเทศ)  หุ้นไทย ผมก็ลงทุน กำไรง่ายดี ตลาดเล็ก  หุ้นต่างประเทศ ผมก็ลงทุนในธุรกิจหุ้นบันผลรายเดือนในต่างประเทศ มีทั้ง ลงทุนระยะยาว เป็น สถานะเจ้าของกิจการ (ไม่ใช่ เล่น Options กระดาษกลางอากาศนะครับ ความรู้สึกมันผิดกัน) และ เล่นเก็งกำไรทางเทคนิคคอล (ลงทุนในหุ้นร้านอาหาร หุ้นพลังงานความร้อน หุ้นธุรกิจทางการแพทย์ บริษัทขุด ทอง เงิน หรือ ลงทุน ETFs ใน Gold กับ Silver)

   เล่าประวัติกันนิดว่า เป็นใคร ที่จริง ไม่อยากจะพูด คนไทย ห้ามโอ้อวด แค่ คนบางคนดูถูกคน ยอมไม่ได้ เพียงชี้แจงให้เข้าใจ หลายคนคิดว่า ผมลงทุนต่างประเทศ นั้น มีเงินมากมายตั้งแต่เกิด ไม่ใช่นะ ตอนเด็ก บางวันไม่มีเงินติดกระเป๋า นะครับ ดังนั้น มันทำให้นิสัย ช่วยเหลือคน ไม่เคยดูถูกใคร รู้จักให้ ติดตัวมา  อาศัยเป็นหัวดี เรียนเก่งนิดหน่อย  ลงทุนด้วยการเรียนก่อน ตอนวัยเด็ก ม.ต้น ผมเรียนได้ GPA 3.9-4.0 รร ประจำต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ม.ปลาย สอบมาเรียนโรงเรียนดังแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนล่าง โครงการ พสวท ห้อง King ด้วย GPA 3.65 ได้ จากนั้น สอบเทียบจบ ม.5 เข้าคณะวิศวะของรัฐบาลมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง (สีไหนเราไม่พูด ไม่ชอบการแบ่งแยกสี เอาเป็นว่า จบวิศวะเมืองนอกไปแล้ว ..เพื่อนส่วนมากเรียน หมอ มีทั้ง จุฬา ศิริราช รามา พระมงกุฎ เชียงใหม่ สงขลา วิศวะ ก็มหาลัยชั้นนำมีชื่อต่างๆ) ตอนเด็ก ก็อยากเรียนหมอเหมือนเพื่อนๆ แต่ ต้องรีบเรียน จะได้ส่งน้องชายคนรองที่เรียนเตรียมทหารได้ทัน ตอนเรียนก็เป็นติวเตอร์สอนพิเศษ ฟิสิกส์ให้ เด็กนักเรียน ม. ปลาย เรียนจบด้วย 4 ปี ด้วย เกียรตินิยม ด้วยอายุ 20 ปี เข้าทำงานเป็นนายช่างในเครือปูนซีเมนต์ไทย ดูแลงานด้านระบบและโครงการ ซ่อมบำรุง ดูแลแก้ไขปัญหา ทุกอย่างที่ขวางหน้า เป็นเวลา 8.5 ปี ก่อนเดินทางไป รักษาสิทธิพลเมืองแคนาดา 3 ปี ที่ลงทุนครั้งแรก ด้วยเงินโบนัส จากการเป็นลูกจ้าง ไปเรียนต่อ ป.โท ทางวิศวกรรม ให้เท่าฝรั่ง จบด้วยเกรด 3.94 ได้ A ล้วน (http://kittinu.multiply.com/photos/album/66) ด้วยทุนรัฐบาลแคนาดา (ไม่ไ่ด้ใช้เงิน พ่อ แม่สักบาท) แต่เอาทุนไปซื้อหุ้นบันผลสูง รายเดือน พื้นฐานดีเก็บไว้ ในปี 2009   และไปลงทุนร้านอาหารไทยในแคนาดา   อยู่เมืองไทย ทำงาน เป็นวิศวกร ระดับสามัญวิศวกร (P.Eng) อยู่แคนาดา อยู่ในสมาชิกสมาคม วิศวกรของแคนาดา อย่างถูกต้อง ทำงานได้ สอบจริยธรรมและกฏหมาย ผ่านหมดสำหรับเลื่อนเป็นระดับ P.Eng (Professional Engineer) เรียบร้อย  แต่ เลือกที่จะกลับเมืองไทย

 รายได้ลูกจ้างที่ทิ้งมา

 
เพียงกลับเมืองไทยเพราะ ต้องมาดูแลน้องชายคนเล็ก ม.6  น้องชายคนรองนายทหารไปประจำเรือรบ ภาคใต้ 2 ปี  จึงตัดสินใจกลับเมืองไทย ตามกำหนดการที่วางแผนไว้

ที่เล่าให้ฟัง ให้เข้าใจ อย่าดูถูกกัน การศึกษาสูง ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกครับ เพียงแค่ บททดสอบหนึ่งในชีวิต เด็กนักเรียนที่เรียนเมืองนอก พ่อแม่ บางคน จบ.ม5 ม.6 ก็มีครับ อย่าดูถูกคนเรียนมาน้อยนะครับ เซียนหุ้น ม.3 พอร์ตหลักสิบล้าน ร้อยล้าน ยังมี  นักเรียนนอก ด๊อกเตอร์ เงินเดือนหมื่น ต้น ๆ ก็มีนะครับ แปลกมั้ย การออกไปใช้ชีวิตต่างประเทศ หรือ การเคยไม่มีมาก่อน ความรับผิดชอบแทนพ่อแม่ในฐานะลูกคนโต ทำให้ ผมคิดไม่เหมือนใคร ก็เท่านั้น

ดังนั้น การสอนเทรดหุ้น แลก เงินกองทุนช่วยการศึกษาเด็ก ความคิดแบบนี้ ผมถือว่า "เป็นสิ่งที่ดี ดี ในการให้" นี่แหละ จากคนไม่มีมาก่อน คิดแบบนี้ก็ไม่แปลก แต่ บางคน ได้ดี ก็ไม่สอน ก็มีให้เห็นเยอะ  ปกติ ก็เทรดหุ้น ตปท ที่เมืองไทยนี่แหละครับ พอร์ตนอกมีครบ Margin, Short ก็มี เล่นได้ หลายตลาด เก็บเงินได้หลายสกุล เล่นหมด คงไม่ต้องหลับ ต้อง นอนกันแล้วครับ  เน้น ลงทุนอย่างพอเพียงพอดีกว่า

พอร์ต ลงทุนต่างประเืทศ HSBC Premier


มาเข้าเรื่อง ความรู้ เทคนิคคอลกันบ้าง บางคนไม่ยอมศึกษาอดีต เพื่อป้องกันปัจจุบันและอนาคต จะยก Case Study ให้เห็นประโยชน์ของการเรียนรู้เทคนิคคอลบ้าง เพื่อ ระวัง เอาตัวรอด ไม่ได้บอกว่า ไม่แม่น หรือ แม่น แต่บอกให้ คุณลงทุน อย่าประมาท ความประมาท จะทำให้คุณเสียหาย


Case study   DOW - Subprime 2008  

   
EMAs & Trend Line Break out เตือนให้ระวังตัว นานแล้ว  ถ้าปี 2008 ตอนนั้น ไม่ประมาทกัน คงไม่เจ็บตัวกัน เห็นไหมว่า วิเคราะห์ทางเทคนิคคอล ก็ใช้ได้ มันเตือนเราระวังในการลงทุนได้อย่างดี

SET ปี 2006-2011


EMAs & Trend Line Break out เตือนให้ระวังตัว เหมือนกัน  ถ้าปี 2008 ตอนนั้น ช่วง Subprime ไม่ประมาทกัน คงไม่เจ็บตัว เสียหาย เห็นไหมว่า วิเคราะห์ทางเทคนิคคอล ก็ใช้ได้ มันเตือนเราระวังในการลงทุนได้อย่างดี และเริ่มเข้าซื้อได้อย่างดี ...หรือ ถอยได้อย่างดี ใครอ่านเทรนออก ล่ำซำขึ้นเยอะแน่นอน แต่ อ่านไม่เป็นก็ล่ำซำได้ครับ รวยไม่รู้เรื่องนั่นเอง ซื้อเก็บไว้เฉยๆ เอาบันผล มันโตขึ้นเอง จาก Fund flow


มาดู Case study : ฺBANPU, PTTCH กันบ้างครับ จะเอาตัวรอดได้อย่างไรกัน เมื่อเรียนรู้ทางเทคนิคคอลกันบ้าง

ฺBANPU






BANPU แนวรับ 700 สัญญานสุดท้าย 677 สำหรับ VI ต้องจากกัน ชั่วคราว ราคาลงมาถึง 610 บาท แล้ว ค่อยมาเก็บใหม่ ตอนกลับตัว

PTTCH

 
รูปแบบ Triple top ถ้าดูกราฟเทคนิคเป็นจะต้อง 147 บาท ออกที่ 138 บาท สัญญานสุดท้าย ราคาลงมาถึง 121 บาท แล้ว ค่อยมาเก็บใหม่ ตอนกลับตัว

หุ้นดี หมดเทรน ขายทำกำไรไปก่อนครับ ดูเทรนขาขึ้นใหม่ ค่อยมาซื้อใหม่ กำไรยังอยู่ แถมมีเงินมาซื้อหุ้นเพิ่ม ของ ดี ดี ก็ยังอยู่กับเรา แค่รู้จังหวะ ปล่อยของ เก็บของใหม่ ไม่เสียกำไร ไม่เสียเวลาและโอกาสด้วย

บทสรุป   โครงการต้นฝัน บันน้ำใจ สิ่ง ดีดี ที่เรียกว่า การให้  "โครงการต้นฝัน 8 (2554)" มีแน่นอนครับ จะมีเงินต่อด้วยเงินทุน ที่ผมสอนเทรดหุ้นแลก กองทุนการศึกษาเด็ก จะโตช่วยคนได้  ทำมาหลายปี แต่ ขาดหายไป 3 ปี ที่ไม่ได้เข้าร่วมทีม เนื่องจาก ติดอยู่ต่างประเทศ  ปีนี้ มีแน่นอน  ...รู้จักให้ รู้จักแบ่งบัน ตลาดหุ้น เป็น ตลาดแห่งความโลภ มีกำไร ต้องทำบุญ ทำทาน  ไม่อย่างนั้นจะหมดบุญบารมี   จงอย่าดูแคลนคน แม้คนไหนจะเรียนน้อย ความรู้น้อย อย่าดูถูกคน คนล้มอย่าข้าม ทุกคนมีโอกาส และ จังหวะชีวิตไม่เหมือนกัน

การศึกษาเทคนิคคอลบ้าง สามารถช่วยป้องกันกำไร ซื้อหุ้นได้ของถูก ขายของได้ราคาแพง  ศึกษาอดีตย้อนหลัง เพื่อ ปกป้อง ระวังเตือน ระมัดระวังในการลงทุนได้ปัจจุบัน และ อนาคต อย่าปิดตา อย่าปิดความรู้ ลืมลงทุนความรู้  ถ้าลงทุนไม่มีกำไร แสดงว่า มีอะไรผิดพลาด ถอยออกมาซ่อม ก่อนที่เงินทุน เงินออม ที่หาด้วยความลำบากจะหมด แทนที่จะเติบโต งอกงาม ก็มีคนหลายคนเขาอ่านเทรนเป็น แต่ เพียงเขาไม่บอกคุณแบบผมเท่านั้น ครับ

Sunday, August 21, 2011

เทคนิค The art of Paper Trading ฝึกฝนตัวเอง ใช้ชำนาญ ลดความเสี่ยงได้



วันว่างที่ผ่านมาได้ สอน Mao Platinum Class ให้น้องคนหนึ่งครับ ลำดับที่ 24 บินตรงจากภูเก็ต มาเรียน อยากเรียน อยากศึกษาการลงทุน (ทุ่มทุนขนาดนี้ ไม่สอนให้ ไม่ได้แล้ว) ถามน้องว่า เล่นมากำไร หรือ ขาดทุน เป็นอย่างไร เล่าให้ฟังหน่อย น้องบอกว่า เล่นมายังไม่ขาดทุนเลย (ในใจ คิดว่า แล้วมาให้เราสอน ทำไมหว่า)  แต่มาถึงบางอ้อ น้องบอกว่า ก็ยังไม่ได้ขาย  ก็ยังไม่ขาดทุน (ในใจคิดว่า เจอเด็กดอยเข้าแล้ว ตรู....เออ ก็จริงอยู่นะ)  แล้ว ก็ถามว่า มีจุด Stop loss บ้างไหม น้องตอบว่า  มี Stop loss แต่ Stop ไม่ทันแล้ว มันเลยมาไกลแล้ว สรุปว่า เงินทุนจมดิ่งอยู่ในหุ้นนั้นเอง  เชื่อโบรค เก็บของไม่ดูกราฟ  ขาลงแล้ว ก็ไม่ขาย ไม่ดูกราฟเทคนิค เหมือนเคย ...สอนจบ หวังว่า น้องคงได้แนวทางการเล่นเป็นระบบ เข้า ออกตามระบบ หาทางลงบนฟูก เบา เบา จะปลื้มใจมากครับ

วันว่าง อีกวัน ได้สอน Stop working class ลำดับที่ 25-28 ให้น้อง พี่ สายวิดวะ 3 คน จากมหาลัยอันดับ 1 ของเมืองไทย เรียนรู้เร็วมากครับ หัวดี มีพื้นฐาน การลงทุน ต้องการเรียนรู้ เทคนิคการลงทุนเพิ่ม เลยมาเรียน หนึ่งในนั้น มีคนเล่น TFEX ขาดทุน 5 แสนบาท ทีเดียว เล่นแบบไม่รู้เทคนิคคอลประกอบ ทำเสียหายหนักทีเดียว กับ พี่เจ้าของธุรกิจสิ่งทอ นักลงทุน VI อยากลงทุนในกิจการอื่นเพิ่ม แต่ที่เริ่มรู้สึกว่า แนว VI อย่างเดียวคงไม่ใช่คำตอบซะแล้ว  เงินจมไปเยอะ รับแต่บันผล คงจะได้ ไม่คุ้มเงินต้นที่หายไปเลย ตัดสินใจมาเรียน เหตุผล พี่เขา ก็คือ ต้องการเรียนรู้ทางเทคนิคคอล บ้าง ไม่มีเวลาไปเรียนคอร์สอื่น เสียเวลา หลายวัน  ต้องการเรียนรู้แบบคนน้อย ฝึกปฏิบัติ ได้ลองใช้โปรแกรมวิเคราะห์ Case studies กัน จริง จริง (โปรแกรม ของฟรี ก็เทรด ทำกำไรได้ ไม่ต้องเสียตางค์ )  
   คำถาม หลายคน ถามว่า เรียนวันเดียว จะจบหรือ เรื่องการลงทุนมันไม่ได้เป็นเรื่องยาก แนวทางผมยึดหลักเข้าใจ Simple is the best ถ้าเข้าใจ มันจะง่ายครับ (ที่จริง มันเป็นเพียง วิชาหนึ่งและก็ไม่ได้ยากเมื่อเทียบกับวิชาที่ผมเรียนต่อต่างประเทศเสียอีก ที่เรียนมา ยาก อย่างลึก ไม่รู้ว่า จะหาไปใช้แบบตรงๆที่ไหน....เรียนมา 100% ใช้ 1% ประมาณนั้น....อืม เรียนไปทำไม ...แต่ตอบได้ ว่า มันได้ฝึกให้เราค้นคว้าเองได้ เจอของยาก มากกว่า มาเจออะไรที่ง่ายกว่า มันเรียนรู้ได้เร็วกว่าไงล่ะครับ ) 
   เนื้อหาที่สอนสรุปแนวทางมาให้ วันเดียวก็จบแบบ 10 ชั่วโมง นี่แหละ แต่ต้องไปทำการบ้านเพิ่มหลังห้องเรียน ฝึกจิตใจตัวเอง ฝึกอ่านอารมณ์ตลาด อะไรที่มันยากเกิน ใช้อะไรที่มันง่ายๆ เรียนแบบเข้าใจ อันไหน ไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้ กรองมาให้แล้ว พอเข้าใจ ทุก ทฤษฎี จะซ้อนทับจะสอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกันในทางหาจุดซื้อ-จุดขาย จุดใกล้ ๆ กัน ไม่ต้องอ่าน ไม่ต้องรู้ลึก เทรดมีระบบได้กำไร เหมือนกัน คงไม่ต่างกันมาก แต่ ที่ แน่ แน่ ลดระยะเวลาเดินทาง ไม่มั่วเอง ไม่ขาดทุนยับยู่ยี่ ก่อนจะลงทุนได้กำไรกัน  จำไว้ว่า "ไม่มีใครสอนให้เก่งขึ้น 100% ได้วันเดียว ต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเองด้วยตามแนวทางที่บอกให้ จะประหยัดเวลา ต่อให้สอน หลายวัน ไม่อ่านทวน ฝึกฝน ปิดจุดอ่อน ไม่ฝึกจิตใจตัวเอง ศึกษาเพิ่มเองได้ ก็ไม่ไป ถึงดวงดาว" แต่ หากมาเรียนเพื่อ เรียนรู้ว่า เล่นระบบ เป็นอย่างไร จะทำกำไรได้อย่างไร ป้องกันการขาดทุนอย่างไร ศึกษาอะไรบ้าง ระวังอะไร  ลดความสูญเสียเงินลงทุนจริง

 มาเข้าเรื่องกันดีกว่า   หลายคน เล่นเกมส์ สนุก สนุกกันใน Iphone หรือ Facebook กันบ้าง ก็หลายเกมส์ แต่ ลงทุนเงินจริง ไม่ลองเล่นเกมส์ ฝึกฝนตัวเองก่อนลงสนามจริงครับ ทำให้เสียหาย ขาดทุน เนื่องจากไม่ได้ฝึกซ้อม ก่อน โดยเฉพาะ มือใหม่ อยากรวยเร็ว แต่ ไม่ยอมทำการบ้าน  The Art of Paper Trading  ใน Text book ของฝรั่ง จะเขียนไว้เลยนะครับ 

" Paper trading is the art of trading a security without using real money. The intent is to help the aspiring trader establish good fundamentals and identify areas for improvement in a low-stress environment prior to tackling the challenges of trading for real money. While paper trading can mean just jotting down stocks or bonds that a trader would've bought and sold in a notebook, advances in technology have made demo or simulated trading available via the Internet and it is reasonable to consider demo, paper and simulated trading all the same thing. "  
   
ใจความคร่าวๆ  การเทรดแบบกระดาษ คือ ศิลปะของการเทรดหุ้น ที่ไม่ได้ใช้เงินลงทุนจริง ความมุ่งหมาย คือ เพื่อช่วยให้ นักลงทุนสร้างพื้นฐานที่ดี และ ระบุขอบข่าย สำหรับ การปรับปรุงพัฒนาในสภาวะที่มีความเครียดที่ต่ำ ก่อนจะไปท้าทายเทรดหุ้นของจริง  การเทรดหุ้น นักลงทุน สามารถซื้อ ขาย ใน โน๊ตบุ๊ค สักตัว  โดย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีการการเทรดผ่าน  Demo หรือ การเทรดจำลอง ผ่าน Internet  พิจารณาเทรด Demo , กระดาษ หรือ การเทรดจำลอง ก็จะเหมือนกัน

นักบอล นักกอล์ฟ นักบิน ทุกสายอาชีพ จะต้องฝึกฝนสนามซ้อม ก่อนสนามจริง จำได้ว่า เวลาสอบ ผมจะทำข้อสอบก่อนเยอะมาก เท่าที่หาได้ แต่ถ้าเรียนเข้าใจ ทำได้ ออกมาแนวไหน จะประยุกต์เกือบได้หมด การลงทุนก็เหมือนกัน ต้องฝึกกันเยอะหน่อย แล้ว ต้องอุดรอยโหว่ ให้ขาด อย่าให้เกิดซ้ำสอง ในหลักสายวิศวกรรม เขาเรียกว่า "การป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำสอง"  ครั้งแรกผิดได้ แต่ ครั้งที่สอง ห้ามเกิดซ้ำ เคยเป็นวิศวกรซ่อมบำรุงงานระบบมาก่อนครับ เวลาซ่อมเครื่องจักร ต้องหาสาเหตุที่แท้จริง แล้วต้องแก้ไขให้หายขาด ห้ามเกิดปัญหา ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ถ้าเกิดอีก จะโดนเล่นงานจากลูกพี่ หรือ คนระดับสูงกว่า ยำ ยำ ระบบการผลิต เพื่อนพนักงาน เดือดร้อน หรือ อาชีพหมอ ต้องวิเคราะห์หาสาเหตุของโรคคนป่วย เพื่อซ่อมคนให้หายขาดจากโรค จะเห็นว่า ไม่ว่า หมอ หรือ วิศวะ จะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ การคิดที่เป็นระบบ มีการวิเคราะห์แบบมีเหตุมีผล  แต่ ต่างกัน หมอซ่อมคนมีชีวิต วิดวะซ่อมเครื่องจักร ไม่มีชีวิต จึงไม่แปลกใจนะครับ ว่า 2 อาชีพนี้เป็น อาชีพที่ลงทุนได้ดี ตาม Blog หรือ เซียนหุ้นต่างๆ หลายคนมาก  ดังนั้น ฝึกหาสัญญานเข้า ออกให้ชัดเจน อ่านเทรนขาขึ้น ขาลงให้ออก ฝึกซ้อมบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความชำนาญ เพื่อให้แม่นขึ้น ถูกต้องขึ้น มั่นใจมากขึ้น ( ปัญหา คือ ว่า อ่านไม่ออกนะสิครับ ปัญหา ขำ ขำ)  

ที่ฝึกฝนมีหลายที่ตามตัวอย่าง

พอร์ตจำลองหุ้นต่างประเทศ



พอร์ตจำลองหุ้นไทย



โปรแกรมจำลองเทรดหุ้นไทย Click2Win


 

ทดลองสนามซ้อม ข้อมูลจริงได้ทั้ง มีทั้ง Equity และ Derivatives มีเงินลงทุนให้ 5 ล้าน ตาม Link  http://click2win.settrade.com/SETClick2WIN/index.jsp


บทสรุป   การฝึกฝน ทดสอบ การซื้อ ขาย จำลอง จะทำให้เรามั่นใจ โดยใช้พื้นฐานความรู้ที่มีในการเทรด ถ้ายังมีความผิดพลาด ต้องซ่อม อุดรอยรั่ว ปรับปรุง ซ่อมความรู้ ให้ดีขึ้น จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จก่อนการลงทุนใช้เงินเก็บออมจริง  โดยเฉพาะ มือใหม่หัดลงทุน  แมงเม่า  ตลาดหุ้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด บางคนเสียหายเยอะ แต่ไม่ได้บอกเล่า ได้ยินเสียงแต่คนมีกำไรที่บอก ตลาดสูงมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้น เล่น บริหารความเสี่ยง (Risk Management) จะเป็นแนวทางที่ช่วยการลงทุนได้ประสบความสำเร็จอีกทางครับ  นักลงทุน ที่ลงทุนอยู่แล้ว ก็สามารถใช้ได้ ฝึกฝนมากขึ้น ชั่วโมงมากขึ้น เจอข้อผิดพลาด ลดเวลาเดิน เพิ่มความเก่งให้เร็วขึ้นได้อย่างดีครับ ไม่ต้องรอเวลา 10 ปี แล้วจะเก่ง ซ่อมตัวเองได้เร็ว ก็เก่งอย่างที่หวังได้เร็ว ประสบความสำเร็จในการลงทุนได้เร็วเท่านั้น ระยะเวลาการลงทุนของจริง ไม่ใช่คำตอบ แต่ หากขึ้นกับจำนวนชั่วโมงการฝึกฝนการเทรด ต่างหาก


Monday, August 15, 2011

เทคนิค GAP Analysis ถ้าเข้าใจ ลดความเสียหายพอร์ต แถมเพิ่มทำกำไรได้


วันแม่ 12 สิงหาคม ที่ผ่านมา พาแม่กับน้องชายไปทานอาหารทะเล ที่พัทยากันมาครับ ไม่ได้อยู่เมืองไทยวันแม่มา 3 ปี หลายปีได้แต่โทรข้ามประเทศมา หลาย หลาย คน คิดว่า เงินทองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แต่นั่น คงไม่ใช่ผม คิดได้ตอนเดินตากหิมะคนเดียว ที่แคนาดา ..ทำไมเราก็มาต่างประเทศแล้วนะ ก็ดีทุกอย่าง (ยกเว้นความหนาวติดลบ) แต่ ทำไมเหมือนไม่มีความสุข เลยคิดว่า "ชีวิตที่สงบเย็น และเป็นประโยชน์" น่าจะดีกว่าครับ

วันว่างที่ผ่านมา ได้สอนลงทุนหุ้น Stop working class ให้ผู้เรียน ลำดับที่ 21-23 มีพี่เจ้าของธุรกิจ มาให้สอน พร้อม ลูกชาย 18 ปี กำลังศึกษา G12 ที่แคนาดา ก่อนบินกลับแคนาดา พร้อมกับ หลานชาย จบ เศรษฐศาสตร์ มหาลัยชื่อดัง ทั้งพี่เจ้าของธุรกิจและหลานชาย ขาดทุน หุ้นระดับไทย หลักแสนบาท  ปัญหาที่พบ คือ ยังไม่มีทักษะในการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่พอเพียง ไม่รู้จุดเข้า ออก และไม่ทราบเทคนิคการลงทุนอย่างเป็นระบบ  ว่า เล่นแบบไหนจะทำกำไร ส่วน ลูกชายวัย 18 ปี ตอนแรกไม่สนใจ คุณพ่อบังคับมาเรียน เพราะ อยากเรียนดนตรี แต่คุณพ่อบอกว่า เรียนได้ ต้องเรียนรู้การลงทุนด้วย พอเรียนจะจบ น้อง เริ่มยิ้ม บอกเห็นทางใช้เงินทำงานแทน อยากลงทุนบ้าง และ เรียนดนตรีที่ชอบได้ ...ในใจคิดว่า ลูกชาย 18 ปี จะไม่ธรรมดาครับ ได้ภาษาอังกฤษ ได้ฝึกฝนความลำบากในต่างแดน แถมรู้วิธีการลงทุนใช้เงินทำงาน แถมป่ะป๋า ก็มีทุนให้ มีความรู้แล้ว สบายเลย ไปเร็วแน่นอน ...วิสัยทัศน์ คุณพ่อ สุดยอดมากครับ เลย จบท้ายให้ไปลองเล่น Click2Win ของ Settrade เทรดสนามซ้อม กันก่อน  เห็นมั้ย เด็กสมัยนี้ จะเริ่มรู้จักการลงทุนแล้วนะครับ อาจจะมีเซียนหุ้น อายุน้อย ให้เห็นกัน ก็ได้ใครจะไปรู้

มีตัวอย่าง น้องให้เห็นคนหนึ่งครับที่รู้จัก จบเศรษฐศาตร์ ที่ U of Victoria, Canada อายุ 25 ปี มีบ้าน รถ ทำงานรายได้ประจำเดือนหลายแสน ที่แคนาดา (บ้านแคนาดาแพง $300,000++ ~ 10++ ล้าน )...เท่าที่คุยกันมา ถือทองที่ระดับ $1,200/Oz แถม คุณพ่อ แม่ เป็น หมอนักลงทุน Model เลยซึมซับกันมา....การลงทุนสมัยนี้ ไม่มีคำว่า เด็ก ไม่มีคำว่าแก่เกินไปนะครับ อย่าดูถูกคนที่อายุน้อย รอบของเขามาเมื่อไหร่ จังหวะมา เขารู้อ่านเทรนออก เขาจัดเต็มเหมือนกัน    บางคนอยากรวยเร็ว ครับ แต่ไม่ลงทุนความรู้ ชอบเสียเงินจริงก่อนได้ประสบการณ์ บางคนลงทุนหุ้นเสียหายหลักแสน หลักล้าน ..แต่ ค่าเรียนหลักพัน ลืมลงทุนด้วยความรู้ เสียเวลา เสียเงิน รู้งี้ รู้งี้ ไปเรียน ให้คนมีประสบการณ์สอน ก่อนจะดีกว่า ระวังตรงไหน เล่นแบบไหนมีจะกำไร ....คิดอยากจะรวย ต้อง ลงทุนความรู้ ก่อน ครับ อย่าลืมกัน

หลังเริ่มสอนเทรดหุ้น มีความประทับใจ ภูมิใจ เล็ก ๆ ที่มีส่วน ทำให้หลายคนมีชีวิตที่ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย แต่นั่น คงไม่ใช่เพราะผม แต่ มาจากหลายคนที่ไม่ยอมแพ้ มาเรียนรู้ แก้ไขจุดอ่อนตัวเอง ต่างหากครับ ตามตัวอย่าง









กองทุนที่สอนได้ กำไรบางส่วน นำไปทำบุญช่วยน้องหมาแล้วครับ (กองทุนการศึกษาเด็ก นำไปลงทุนให้เงินทำงานเช่นกันในประเทศและต่างประเทศ)


กลับมาเข้าเรื่อง Gap analysis   Gap คืออะไร ทำไม ราคาหุ้น จึงเปิด Gap คนหลายคนบอกว่า เปิด Gap และจะปิด Gap ในอนาคต แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมปิด นั่นเอง ก็เขาบอกว่า มันต้องปิดไง จำเขามา งี้ หนังสือเขาเขียนไว้ เขาบอกไว้ งั้นก็แสดงว่า แต่ไม่เข้าใจจิตวิทยาของตลาดแล้วละครับ ว่า มันเกิดแบบนี้ เพราะอะไร ทำไม ทำไม ทำไม ภาษาวิดวะ เขาเรียก Why Why Analysis เราต้องทำความเข้าใจ ว่า เกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร แล้วจะแก้ไข รับมือได้อย่างไร

ตลาดหุ้น DOW อเมริกา  ปัญหาหนี้สาธารณะที่สูงเกินเพดาน ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจในเศรษฐกิจ


ตลาดหุ้น TSE แคนาดา ก็หวั่นไหว เช่นเดียวกัน


ตลาดหุ้น SET บ้านเรา ก็เช่นกัน ก็ตกใจเปิด Gap กันตามเคย


มีึหลายคนถามว่า จะทำอย่างไร ก็ได้บอกไปว่า ถ้าสถานการณ์ปกติจะน่าจะปิด GAP วันใด วันหนึ่งในอนาคต ไงก็ Stop loss กันไม่ทันแน่ครับ เครื่องมือตลาดหุ้นบ้านเรายังไม่มี (ไม่ใช่ TFEX) แต่ หุ้น ตปท ยังสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันกำไรได้ด้วย ฟังก์ชั่น Stop order ครับ


ได้ลงทุน หุ้นเหมืองทอง 2 บริษัท ไว้ กำลัง Let profit run ไว้ รวม $1,250 (38,750 บาท) แต่ถ้าเราไม่ประมาท ลงทุนตามระบบ มีการป้องกันความเสี่ยง ยก Stop loss อัตโนมัติ มาวางป้องกันไว้ แม้ว่า ตลาดตกใจ เราสามารถออกจากตลาดได้ และยังได้กำไีรมา $973 (30,163 บาท)
แต่ตลาด SET บ้านเราทำไม่ได้ ก็ทำใจกันเบา เบา ต้องเข้าใจจิตวิทยาตลาด ปลอบใจกันไป ว่า ไม่นานก็คงปิด GAP ในเร็ววัน แต่วันไหนไม่รู้

มาเรียนรู้การเปิด GAP ตามทฤษฎี จะมีความสัมพันธ์กับ Volume Peak ไม่ว่าจะเป็น แรงเทขาย หรือ แรงซื้อที่มากเกินปกติ มีหลายชื่อตามรูปแบบ ถามว่า ต้องจำหรือไม่ ไม่ต้องจำครับ แต่ เข้าใจว่า ทำไมเป็นลักษณะแบบนี้ จะทำอย่างไร เท่านั้นก็พอเพียง


มาทำการ Back Test ข้อมูลตลาดหุ้นไทยย้อนหลังกันบ้าง ว่า ปิด GAP ตามทฤษฎี จริง หรือ ไม่อย่างไร

ก็จะเห็นว่า จะมีการปิด GAP  กันจริง จริง

มาดู หุ้นต่างประเทศ - Google ตอนเปิดตัว Google plus สุดท้ายก็ปิด GAP ต้องมีคนขายทำกำไรกัน เป็นโดมิโน นั่นเอง ก็ขายกัน ก็ต้องขายตามกันบ้าง ซิ สุดท้าย ก็ลงมาปิด GAP 


ตามว่า ตลาด SET เิปิด GAP ผมทำอย่างไร คำตอบ คือ นำเงินสด Cash ที่มีรอ มารอซื้อของ คนตกใจ ขายของทิ้ง จากการตกใจของตลาดโดยใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ มากกว่า ความเข้าใจจิตวิทยาตลาด พอสถานการณ์ปกติ อ้าว ขายหมู นี่น่า !!  ก็เริ่มซื้อใหม่ GAP เลย จะกลับมาเริ่ม ปิด นั่นเอง

ตลาดหุ้นไืทย

BCP, BGH, CPF เข้าซื้อตามสัญญานซื้อ ตอนกลับตัว ก็สามารถทำกำไรได้ ถ้าอ่านเป็น


สรุป การเข้าใจ ลักษณะการเกิด GAP แต่ละประเภท ที่สอดคล้องกับอารมณ์ของตลาดที่เกิดขึ้นจริง ถ้าเรียนรู้ด้วยความเข้าใจ สามารถจัดการทำกำไร หรือ ลดความเสียหายพอร์ตได้ ด้วยไม่ขายหุ้นพื้นฐานดีออกไป โดยไม่จำเป็น ด้วยความหวาดกลัว จากอารมณ์ของตัวเอง  (แต่ตัวที่ถือ พื้นฐานดีหรือไม่ คือ อีกปัญหานะครับ) ดังนั้น มีจำเป็น ลงทุนด้วยความเข้าใจรูปแบบ ไม่ใช่การจดจำ แบบไม่เข้าใจ เพียงอย่างเดียว (มาเขียนกันแบบนี้แล้วใคร จะขายของกันละครับเนี่ย)


เมื่อคืน DOW ตกอีก -430 จุด ทำใจกันเบา เบา กันอีกแล้ว จะลดความเสี่ยงโดย Short TFEX ไว้ ก็เป็นอีกทางเลือกนะครับ

20/8/2011 ใครเปิด Short  TFEX ไว้ ตามที่บอกได้กำไรกัน ยิ้ม แล้ว ดีใจด้วยครับ

Monday, August 8, 2011

เทคนิคระบบบันทึกกำไรสะสมช่วยจัดการพอร์ตให้เขียวด้วย Stop loss ได้อย่างสบายใจ


วัน ส-อา  ได้ใช้วันว่าง สอนเทรดหุ้น Stop working class พี่หมอ เวชศาสตร์ รุ่นน้อง Eng  น้องที่มาจากระยอง และ นนทบุรี มากันอย่างไกลกันเลย และ  Mao Platinum Class  มีพี่ขาดทุน 8 แสน เล่นมายังไม่เคยกำไร ชอบเล่นหุ้นซิ่ง (เม่า 2.0) พี่กำไร 1 แสน เขียวตัวเดียว ที่เหลือ 20 กว่าตัว แดงหมดพอร์ต (เม่า 2.0) โชคดีมากที่มีกำไร เนื่องจาก เลือกตัวเล่นได้ดี มี Story มีการวิเคราะห์พื้นฐานที่ดีมาก และ น้องมือใหม่ อีก 2 คน (เม่า 1.0) ที่เพิ่งเล่นหุ้นยังไม่มีกำไร และยังไม่ได้ลงตลาดหุ้นจริง  รวมสอนไปแล้ว 6 รุ่น 20 คน เป็น พี่ น้อง หมอ 5 คนเลยที่เดียว สายวิดวะหลายคน  ปัญหาที่พบ คือ การเทรดหุ้นยังไม่เป็นระบบ ไม่สามารถอ่านจุดเข้าซื้อ จุดขายได้  บางคนขายหมู  ติดดอย ไม่สามารถตัดขาดทุนได้ เนื่องจาก ที่ตัดคือ ต้นทุน  ไม่ค่อยได้ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในกำหนด การซื้อ ขาย อย่างถูกต้องและมีความเข้าใจตลาดพอเพียง บางคนเก่งระดับเทพ แต่เพียงมาเรียนรู้การเทรดหุ้น ต่างประเทศเท่านั้น

   ทำไมต้องเรียนรู้เรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิค หุ้นบันผลที่บันผลรายเดือนที่ ต่างประเทศ หมดเทรนขาขึ้น ก็ต้องขาย (นี่ขนาดหุ้น VI เทพนะครับ ลองสังเกตหุ้นบางตัวที่เป็น VI มี Story ดี ผลประกอบการดี แต่ ไม่วิ่ง ซื้อไปก็ยังดอย ก็มี.....เชื่อเซียนหุ้น เป็นไงละครับ ดอยใช่ไหม)   การเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค ช่วยในการเอาตัวรอดจากตลาดหุ้น ในหุ้นขาลง ต่อให้หุ้นดีเพียงใด ต้องขาย เป็นคำตอบสุดท้าย ไม่ขาย กำไรหาย เสียเวลา เสียโอกาส เอาเงินทุนไปลงทุน หุ้นขาขึ้นดีกว่า ระบบ เทรดของผมเป็นแนว Uptrend follower เล่นหุ้นขาขึ้น หมดเทรนขายทำกำไรครับ การวิเคราะห์ทางเทคนิค จะเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยการตัดสินใจ แม้ว่า จะซื้อหุ้นราคาไม่ถูก ขายราคาไม่ได้แพงสูงสุด ขอให้ได้กำไรเพียงพอก็พอใจแล้วครับ ในโลก ไม่มีใครซื้อหุ้นได้ราคาถูกที่สุด หรือ ขายแพงที่สุด เพียงแต่ ซื้อแล้วขอให้มีกำไร ไม่ว่าหุ้นราคาถูกหรือแพง หุ้นตัวละ $38 ผมยังซื้อ เพราะซื้อขอให้ได้กำไร มีคนเล่น มีความต้องการ อย่างไรราคาก็ขึ้นตามหลักเศรษฐศาสตร์ หุ้นจะขึ้นระต้องมี  Demand > Supply   หรือ Fund flow ฝรั่งเข้า หรือ มีเจ้าปั่น ทำราคา ล่อลวงเรา

เห็นหลายคนพยายามจะเป็นเซียนเทคนิค ตี Trend line นับ Ellilott wave ตีเส้น Fibonacci จำชื่อ Candle stick จำ Pattern กันอย่างสุดโต่ง ที่จริง การวิเคราะห์เทคนิค ไม่ได้อยากเย็น หากเรียนด้วยความเข้าใจ ไม่ต้องจำขื่อ เรียนด้วยความเข้าใจ รูปแบบ อย่างมีเหตุ มีผล ใช้ Indicators ไม่กี่ตัว ก็ได้กำไรเหมือนกันครับ ถ้าเข้าใจที่มาที่ไป เข้าใจจิตวิทยาตลาดอย่างแท้จริง  Simple is the best ครับ  บางคนเสียค่าเรียนไปหลายคอร์ส แต่ เรียนไป ก็ยังไปลงทุนให้ดีไม่ได้ เพราะ เรียนเยอะ ไม่รู้ว่า จะใช้อะไร นำ อะไรตาม คือ เรียนแบบไม่เข้าใจ จำ แบบจิ๊กซอลแต่ละตัว แต่ เอามาต่อกันไม่ได้  เรียนกับคนเก่งมาก ใช่ว่า คุณจะเก่งตามเขาได้ หากคนสอน สอนจากภายในตัวเองออกมา ไม่ได้สอนแบบว่า ผู้ไม่เป็นต้องการเรียนอะไร หรือ ที่เรียกว่า Outside In  เวลาสอนคนให้เป็น ต้องสอนแบบว่า ถ้าเป็นคุณไม่รู้อะไรเลย จะสอนให้เขาเข้าใจได้อย่างไร นั่น คือ ผู้ถ่ายทอด Trainer ที่ดี (ผมเคยสอนลูกน้อง หลายคนให้เก่ง ทำได้เกือบเท่าผม สมัยอยู่ในเครือปูนซีเมนต์ไทย ตามสายการบังคับบัญชา ...เลยรู้ว่า จะสอนคนไม่รู้ให้เข้าใจได้อย่างไร ...สอนให้เห็นภาพ ต่อจิ๊กซอให้ เห็นภาพรวมทั้ง 360 องศา ทุกมุมมอง จะสามารถเอาไปใช้ได้ หรือ ที่เรียกว่า Road map ครับ ลดระยะเวลาเดิน รู้วิธีป้องกันภัย และเอาตัวรอดได้ แต่สุดท้าย ไม่มีใครสอนคุณให่เก่งได้ ถ้ายังไม่คิดจะศึกษาเพิ่มต่อด้วยตัวเอง)

ขอออกตัวนะครับ ว่า ไม่ได้ชักชวนให้มาเรียนกับผม ผมไม่ใช่ พ่อมดการเงิน ที่สอนคอร์สสะเป็น แสนบาท มาหลอกล่อให้ลงทุนได้กำไร 100% หรือ 1,000% ภายไม่กี่วัน (ได้กำไรสูง ก็ขาดทุนสูงเช่นกัน..คนโลภก็จะต้องถูกเป็นเหยื่อ นั่นเป็นสัจธรรม ควรพึงระวัง) แนวทางผมสอนให้คนที่อยากเรียน อยากเรียนรู้ การเทรดอย่างมีระบบ มีระเบียบวินัย ลงทุนในหุ้น Common stocks ที่มีบันผลรายเดือน รายไตรมาส หรือ ETFs-Gold Silver Commodities ในต่างประเทศ เน้นลงทุนอย่างเป็นระบบ มีระบบป้องกันความเสี่ยง ไม่ลงทุนแบบเก็งกำไร หรือ การพนัน ในรูปแบบ Options หรือ Forex และ ลงทุนหุ้นไทย โดยใช้การวิเคราะห์ทางพื้นฐานและวิเคราะห์ทางเทคนิค มีการจัดการระบบการเงิน ลดความเสี่ยงและ เข้าใจจิตวิทยาตลาด เพื่อลงทุนให้ประสบความสำเร็จและลงทุนอย่างมีความสุข  (มีคนจะหาว่า ผมเป็นคนหลอกลวง ชวนคนไปลงทุนต่างประเทศ....เปล่าเลยครับ  แต่ ถ้าอยากรู้ อยากเรียน ผมจะสอน ถ้าไม่อยากเรียน ไม่ต้องมาหาเลยครับ  วันนี้ จะให้เห็นกัน จะ จะ ว่า เล่นเป็นระบบ มีวินัย มีการป้องกันอย่างไรก็มีกำไร)   มีพี่ น้อง สอนที่สอนไปแล้ว พูดว่า "เราน่าจะเจอกันเร็วกว่านี้นะ  ไม่งั้นพี่จะได้กำไรมากกว่านี้ เสียดาย -โชคดีมากที่ได้เจอผม- คนไหนขาดทุน รู้วิธีลงทุนอย่างถูกต้อง ก็ดูหน้าตามีความหวังที่จะสู้ต่อ"  ได้ยินแล้ว ดูสีหน้า คนเรียนแล้ว มีความสุข มีกำลังใจสอนมาก ขอบคุณและยินดีมากที่ได้สอน ระบบการลงทุนหุ้น ต่างประเทศ หุ้นไทย ก็ไม่ได้ต่างกันเลย

แนวทางความคิดผมที่สอน เพราะ ผมใช้เวลาว่าง อยากทำกองทุนการศึกษาเด็ก ผมสอน เหนื่อย เอาความรู้แลก ค่าเรียน ไปทำกองทุนการศึกษาเด็ก หรือ บันผลกลับไปให้ผู้เรียน ทานข้าวกัน รู้จักกัน มีกองทุนจะลงทุนทำให้มีกำไร ไม่หมด ช่วยเด็กได้หลายคน ไม่ใช่ มีกองทุนแล้วไปให้เด็ก หมดแล้ว หมดเลย  ผมนั่งเทรดหุ้นคนเดียว วัน วัน ก็ไม่ได้รู้จักใคร มีความรู้ก็ไม่ได้ถ่ายทอด เก็บไว้คนเดียว ไม่มีประโยชน์ ช่วยสอน แนะนำ เตือน เปลี่ยนความคิดคน ให้ความรู้ น่าจะมีประโยชน์มากกว่าเล่นหุ้นคนเดียว .....ถ้าผมสอนแล้ว ต้องให้เป็น ให้เอาไปใช้ได้ นั่นคือ มาตรฐานการสอนคน    ใครจะลงทุนควรต้องมีความรู้ จึงจะทำเงินให้โตได้ ถ้าไม่ลงทุนเรื่องความรู้ คุณจะเสี่ยง มีล้านก็จะหมด ล้าน มีแสนก็จะหมดแสน หรือ รอให้มีประสบการณ์แล้วจะเก่ง มันจะนานไปไหม หรือ ใช้การขาดทุนเป็นบทเรียน ราคาแพงไปไหม ต้องให้ติดดอย ต้องให้ขาดทุน ต้องผ่านตลาดหุ้นมา 10 ปี หรือ ผ่านวิกฤติการณ์ ต่างๆ มาซะก่อน จึงจะเก่งเอาตัวรอดได้ ...บอกได้เลยว่า ผิดครับ เราเรียนรู้จากอดีตได้ มีหนังสือ บทเรียนมีให้อ่าน คนเล่าให้ฟัง เราต้องอยู่ในความไม่ประมาท ถ้าคุณประมาท คุณจะเป็นเหยื่อ  ...ถ้าแบบฝรั่ง เขาไม่สนอายุ หนุ่มๆ บางคน เก่งกว่าคนแก่กว่านะครับ เก่งเร็วไป เร็ว ตามแนวทางฝรั่ง ไม่ใช่บ้านเรา ตามระบบอาวุโส ขึ้นกับว่า ใครเจออะไรมากกว่ากัน ใครฝึกฝน ใครซ่อมจุดอ่อน ใครพัฒนาตัวเองได้เร็วกว่ากัน ....อย่าดูถูกคนอายุน้อย เดี๋ยวนี้จะเห็นว่า คนเก่ง เก่ง อายุไม่เยอะนะครับ มีให้เห็นกันทั่วไปแล้ว เดี๋ยวนี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วนะครับ (พูดภาพรวมนะครับ ...ไม่ใช่ผม ผมเพียงคนธรรมดา ไม่ใช่เซียนหุ้น แต่ผมมีพัฒนาการที่เร็ว เล่นมีระบบ วินัย ไม่อยากติดดอยซ้ำซาก ลงทุนไม่มีกำไร ก็แค่นั้น)

มาเข้าเรื่อง กำไรสะสม และ การ Stop loss กันตามหัวข้อ นอกเรื่องซะเยอะ  บางคนเล่นหุ้นมา ไม่มีระบบบันทึกที่ดี ถ้าไปว่า เล่นหุ้นมากำไรสะสมเท่าไหร่  บางคนตอบไม่ได้ครับ ไม่ได้ทำการบันทึกการซื้อขาย ....ถ้าไม่ได้ทำคุณรั่วแล้วครับ รีบซ่อมซะ ไม่ว่าลงทุนหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ จะต้องมีระบบบันทึกกาซื้อขาย มีการบันทึกกำไร ขาดทุน กำไรสะสม ว่า ลงทุนมามีกำไรสะสมเท่าไหร่แล้ว  แล้วมันมีประโยชน์อย่างไร วันนี้ มีคำตอบให้ครับ

ระบบบันทึกการซื้อขาย หุ้นต่างประเทศ


จะเห็นได้ว่า เมื่อทำการบันทึกการซื้อขายที่มี กำไรสะสม ด้วย เมื่อทำการ กำหนด Stop loss มันจะสบายใจขึ้น เช่น มีกำไรสะสม ~$17,300  เข้าซื้อหุ้นผิดทาง Stop loss ~$270 ขาดทุนการกำไรสะสม เราเดือดร้อนไหม (เหมือนมีน้ำในโอ่ง หายไปสักแก้ว จะเป็นไร มีเวลา มีความรู้ เดี๋ยวหามาเติมใหม่ )  ...เป็นผมบอกได้เลยว่า สบาย สบาย ถ้าอ่านเทรนออก เข้าถูกจังหวะ เข้าผิดมี Stop loss เข้าถูกทาง Let profit run ยก Stop loss ตาม จะขาดทุนตรงไหน โปรแกรมเทรดหุ้นต่างประเทศทำได้ ไม่ว่า จะเปิดจากไทย หรือ เปิดในต่างประเทศ ดังนั้น Entry buy-Stoploss-Let profit run-Exit คุณต้องดูกราฟเทคนิคให้เป็นด้วย จะช่วยคุณอย่างดี ถ้ายังไม่รู้ ไปหาที่เรียนซะนะครับ ก่อนกำไรสะสมคุณจะหมด ตลาดตอนนี้ไม่ง่ายแล้ว ไม่รู้กราฟวิเคราะห์เทคนิคไม่เป็นจะ  เหมือนคนตาบอดเล่นหุ้น   VI ก็ดอยเหมือนกัน ออกไม่ทัน เห็นมาหลา่ยคนแล้วเหมือนกัน เป็น VI จำเป็นกันไป ....จะบอกให้ว่า คุณเสียเวลา เงินลงทุน และโอกาส ครับ คุณไม่ใช่ VI ที่ดีนักนะครับ  ถามว่า ผมเป็นอะไร ผมเป็น "ลูกครึ่ง VI+Technic" เล่นระบบเหาฉลาม ครับ  สรุปว่า รู้กำไรสะสม จะ ตัดขาดทุน Stop loss ได้อย่างสบายใจ  ที่ไม่สบายใจกันเพราะ ที่ตัดขาดทุนนั่น เป็นต้นทุนนั่นเอง 

มาดูกองทุนการศึกษาเด็ก ที่ผมสอนเทรดหุ้นแลกค่าเรียนมา เปิดพอร์ตใหม่โดยเฉพาะ IPO วันแรกวันที่ 25/7/2011  ลงทุนตามระบบ ไม่วิ่ง Stop loss ออก ลงทุนเฉพาะหุ้น Uptrend  ก่อนส่งคำสั่งซื้อ ต้องมีจุด Stop loss ก่อนทุกครั้ง


ระบบบันทึกการซื้อขาย หุ้นไทย




ถ้าเราอ่านเทรนของหุ้นขาขึ้นออก โดยใช้การวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคในหุ้นที่มี พื้นฐานดี ก็สามารถทำกำไรได้ ในพอร์ตจะต้องมีสีเขียว สีแดงที่ขาดทุน เราต้อง Stop loss หรือ จะมีก็จะต้องมีสีเขียว มากกว่า สีแดง พอร์ตรวมจะต้องมีกำไรรวม  ไม่ใช่ สีเขียวจับขายหมด เหลือแต่หุ้นสีแดง ขาดทุนเก็บไว้  หุ้นกำไร ปล่อย Let profit run จนหมดเทรนเปลี่ยนเป็นขาลง อีกส่วนหนึ่งไปลงทุน ต่างประเทศ กระจายความเสี่ยงด้วย เช่น หุ้นเหมืองทอง  เงิน ด้วยซึ่งเป็นยังเทรนขาขึ้นอยู่ (ถึงแม้จะ สถานการณ์ไม่ดี แต่มีระบบ Stop order สามารถป้องกันกำไรโปรแกรม เอาตัวรอดได้)


กองทุนการศึกษาเด็ก ที่ผมลงทุนใช้เวลาว่างสอน ลงแรงถ่ายทอดความรู้ จะโตแน่นอนครับ ลงทุนได้สองซีกโลก บางคนคิดว่า จะทำจริง หรือ สักวันจะเอาภาพมาลงให้ชมกัน ว่าเอาจริง ผมเคยเป็นผู้รับมาก่อน แต่วันนี้ ผมจะเลือกเป็นผู้ให้