North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Monday, February 28, 2011

ลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (REIT) แบบธุรกิจให้เช่า ระบบหุ้นบันผลรายเดือน (วิเคราะห์แบบหุ้นไทย)

 



ลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (REIT) แบบธุรกิจให้เช่า ระบบหุ้นบันผลรายเดือน ดีอย่างไร มีมุมมองอย่างไร

เล่าให้ฟังนิดหนึงว่า ทำไมสนใจลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน เมื่อปีก่อนอยู่ในฐานะผู้ถือหุ้น 30% ของร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง 1 ใน 3 คน ซึ่งเริ่มสร้างมาด้วยฝีมือตัวเอง ชื่อร้านก็ออกมาจากหัวสมองผม ได้เริ่มทำ ดูสัญญาการเช่า เทคโอเวอร์ร้านอาหาร จึงมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงระบบสัญญาการเช่าที่ในแคนาดาด้วย ว่า เป็นอย่างไร ทำกันอย่างไร  สุดท้ายก็ได้ขายให้คนที่เหมาะสมไป เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทย

การทำสัญญาเช่า (Contract) โดยทั่วไป เจ้าของ (Landlord) จะร่างสัญญาให้ผู้เช่า โดยมีทนายเป็นผู้ดำเนินการร่วมด้วยตามกฏหมาย ระยะสัญญา ยาว 5 ปี ในการต่อสัญญา ซึ่งในการเทคโอเวอร์ร้านอาหาร ถ้าสัญญาเดิม ยังไม่ครบวาระที่กำหนด ผู้เช่าเดิมต้องสับเปลี่ยน ผู้เช่าใหม่ ก่อนจนครบสัญญาเดิม ก่อนที่จะทำสัญญาใหม่ และโดยปกติค่าเช่ารายเดือน จะมีแต่การปรับเพิ่ม หรือ อาจมีการต่อรองในราคาค่าเช่าเดิม  จะเห็นว่า สัญญาผูกมัดผู้เช่า เอื้อไปทาง เจ้าของ ( Landloard) มากกว่า นั่นเองที่ เป็นเหตุผลที่ผมสนใจ ในการลงทุนระยะยาวธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในต่างแดน

ในการเลือกลงทุน จะต้องหาข้อมูลเดียวกับหุ้นที่ละลงทุนว่า เป็นอย่างไร มีพื้นฐานดี หรือ ไม่อย่างไร ตามเว๊ปไซด์ของหุ้น หรือ ข้อมูลบริษัทกันก่อนคร่าวๆ  ดังนี้  บริษัทนี้ดูแลและจัดการระบบอสังหาิริมทรัพย์ 220 ที่ ใน 7 รัฐ ทั่วแคนาดา  เป็นพื้นที่ให้เช่า Small boxes ให้ธุรกิจเฉพาะ (Niche Market) และ ผู้เช่า Brand name  เข้าดูเว๊ปไซด์ บริษัทที่มาเช่า เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วไป ทั่วแคนาดา จริง ตามภาพด้านบนเลย เช่น Tim Hortons, KFC, Shell, Shopper Drugs, Subway, Casey's (Grill&Bar), A&W, Rexall  เป็นต้น ซึ่ง ผมวิเคราะห์แล้วว่า ธุรกิจของผู้เช่า มีความจำเป็นในระบบพื้นฐานของพลเมืองแคนาดาเป็นอย่างมาก เนื่องด้วย ระบบสัญญาผูกมัดค่าเช่าที่ ยาวนาน 5 ปี เก็บยาวได้เลย สำหรับ กรณี กลยุทธ์ลงทุน หุ้นบันผลรายเดือน

จะมาแสดงให้ชมกัน จะ จะ ว่า แนวลงทุนหุ้นบันผลรายเดือนผม ทำอย่างไร  สิ่งที่ผมสนใจ คือ เงินบันผลรายเดือนมากกว่า 10% ต่อปี กับ จำนวนหุ้นที่จะได้มาครอบครอง ในการวิเคราะห์ ต้องดูข้อมูลทางพื้นฐาน และทางเทคนิคประกอบด้วยตามนโยบาย "วิเคราะ์์ห์พื้นฐานเป็นเกราะ วิเคราะห์ทางเทคนิค เป็นอาวุธ" ดังต่อไปนี้


วิเคราะห์พื้นฐาน


ข้อมูลพื้นฐาน ราคาสูงสุด $8 มี กำลังอยู่ในช่วงขาลง มีการจ่ายบันผลให้รายเดือน > 10% ต่อปี แต่ค่า EPS ติดลบ และ P/E ไม่มี ซึ่งต้องมาแคะ แงะ ในข้อมูล Financials ประกอบด้วย ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีการตัดค่าเสื่อม (Depreciation) ด้วย ตามมาดูกัน  Financials : Income statement ด้วย (ยกตัวอย่างใช้ ชมก่อน ต้องไปดู Cash Flow , Balance sheet ประกอบด้วยนะครับ ว่าเป็นอย่างไร



จะเห็นว่า ธุรกิจมีรายได้ ( Revenue) เพิ่มขึ้นทุกปี 5 ปี ย้อนหลัง แสดงว่ามีการเติบโตมากขึ้น แต่ ทำไม EPS ติดลบ ก็เพราะทางบัญชีมรการตัดค่าเสื่อมเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี นั่นเอง  มาดูการวิเคราะห์ Research จากโบรคเกอร์ออนไลด์บ้าง แนะนำเป็นอย่างไร   เขาแนะนำให้ ถือ  (ดีกว่า แนะนำให้ขาย) ถ้ายังไม่มีหุ้น ผมว่า น่าจะซื้ออย่างไรก็ได้บันผลรายเดือนให้เราทุกเดือน  มาชม ข้อมูล Research กันหน่อยครับ ด้านล่าง


เป้าหมายสูงสุด ที่แนะนำไปทาง $8  ที่ราคา $7  ก็น่าสะสมหุ้นไว้อยู่อาจได้ Upside 12.5% ก็ไม่แย่มากนัก
ข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ ถูกรวบรวมไว้ที่ เว๊ปไซด์ของตลาดหุ้นเดียว มีทั้ง Quote,Chart,New,Company, Financials, Price History, Research แน่นอนว่า เว๊ปตลาดหุ้น บ้านเรามีไม่ครบ ต้องหาเอง  แต่ ดีใจครับ มีเพื่อนนักลงทุนที่เขียน ฺBlog , Cway investment ทำโปรแกรมให้ ลองไปใช้กันดู ดีทีเดียว ตามลิงค์ http://cway-investment.blogspot.com/p/stock-bookmark-10.html 


จากนั้นมาดูแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทางกราฟเทคนิค เพื่อหาจุดเข้าซื้อ- ขาย

วิเคราะห์ทางเทคนิค



จะขีดเขียน ตามภาพให้เข้าใจ (ลงมือเองเลยนะ อีกวัน) การทะยอยเก็บหุ้นของผม ตามระยะ เพื่อเอาบันผล ที่สนใจคือจำนวนหุ้นที่ราคาถูก เราต้องการจำนวนหุ้น เพื่อเอาบันผลรายเดือน ครับ พร้อมทั้ง เข้าซื้อในจังหวะขาขึ้นเพื่อรับกำไร ผลต่างราคา ร่วมกับบันผล 2 เด้ง ไงละครับ ตามภาพด้านล่าง โดยใช้พื้นฐานทางเทคนิค เช่น การดู EMAs, MACD, ADX, ฺฺBB,Volume  เป็นต้น ประกอบ ตามที่เคยเขียนในบทความก่อนบ้างแล้ว


บทสรุป จะเห็นว่า การเข้าซื้อของผม มีการติดตามหุ้นที่สนใจอย่างใกล้ชิด หาจังหวะที่เหมาะสม ซื้อหุ้นในราคาถูก และ เข้าซื้อหุ้นในจังหวะขาขึ้นเพื่อรับบันผลและ กำไรเกนอีกด้วย  ดังนั้น การศึกษาหุ้นทั้งทางพื้นฐานและทางเทคนิคร่วมกัน จะมีประโยชน์ที่มากกว่า นั้น เอง  สำหรับ หลักการลงทุน เน้นหุ้นบันผล ถือ ในระยะกลาง ยาว เคลื่อนไหวทำกำไรไปตามคลื่นกราฟ นั่นเอง การลงทุนที่ดี ต้องมองว่า เราซื้อ เพื่ออะไร ขายเพื่ออะไร จะได้สบายใจ ติดตามหุ้นใกล้  อดทนรอคอย ขายทำกำไรบ้าง เื่พื่อให้ในการลงทุนหุ้นบันผลเพิ่ม หรือ ตัวอื่นต่อไป จะทำให้การลงทุนเราผลตอบแทนที่มากขึ้นตามลำดับ หวังว่า ตัวอย่างแบบนี้ คงจะมีประโยชน์กับผู้อ่าน Blog สามารถใช้ได้กับหุ้นไทยได้ด้วย ไม่ใช่เพียงแต่หุ้นนอกอย่างเดียว ก็อย่างที่บอกว่า เล่นหุ้นไทยได้ ก็เล่นหุ้นนอกได้ หลักการเหมือน ๆ กัน ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมายเลยนะ  แต่ทุกครั้งที่เข้าซื้อ ผมจะรู้สึกดีใจ ภูมิใจ ในมุมมองฐานะ เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ต่างแดน ตกลงว่า ผมเป็น Valued Investor (VI) กับเขาสักคนเหรอปล่าวครับเนี่ย...

Sunday, February 27, 2011

ลงทุนธุรกิจขุด Gold & Silver รองรับการปรับตัวความต้องการตามแนวโน้มในอนาคต ดีอย่างไร



 ลงทุนธุรกิจขุด Gold & Silver รองรับการปรับตัวความต้องการตามแนวโน้มในอนาคต ดีอย่างไร เขาขุดกันอะไร ที่ไหนอย่าง ไร แนวโน้มธุรกิจเป็นอย่างไร แนวโน้มจะเป็นอย่างไร

เคยนั่งคิดว่า ในโลกของเราเนี่ย ทองคำ เงิน เขาขุดกันที่ไหน อะไรยังไง บ้านเราก็มีข่าวลือ ขุมทองโกโบริ แต่ ขุดไปไม่เจออะไร เรียกว่า ไม่มีทองเป็นของตัวเองนั่นเอง แต่มี ถ่านหินครับ ซึ่งจะว่า ไปแนวโน้มถ่านหิน ในมุมมองผมระยะยาวไปต่อแน่นอน เอ้าเชียร์หุ้นถ่านหิน ซะแล้ว  BANPU, LANNA, AGE, TCC ใครวิสัยทัศน์ดี ก็ร่ำรวยไปกัน ดีใจด้วยครับที่มองธุรกิจและมองอนาคตออกได้ดีทีเดียว

กลับมาเรื่อง ทองคำ กับโลหะ เงิน ก็คงไม่ต่างกันนัก เมื่อความต้องการทองคำ เงิน มากขึ้น ราคาก็สูงมากขึ้นนั้นเอง ส่งผลให้ราคาหุ้น บริษัท ขุดทองคำ เงิน สูงไปด้วยใช่ไหมครับ แต่อะไรที่มากกว่า กันหล่ะ (ไม่มีใครรู้ ถ้าผมไม่บอกกก ขำ ขำ อีก)  มาดูกันเลย


การปรับตัวราคา หุ้นบริษัทขุดทองคำ (Gold)



การปรับตัวราคา หุ้นบริษัทขุดเงิน ( Silver)


จากตารางเห็นอะไร ไหมครับ ในหนึ่งวัน การเปลี่ยนราคาหุ้น % มากกว่า การเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ และ เิงิน เสียอีกซึ่งอยู่ประมาณ 1-3% ต่อวัน

มาดูแนวโน้มของราคาทองคำ เงิน เทียบ หุ้น บริษัทกันบ้างนะครับ ว่า สัมพันธ์กันอย่างไร   ยกตัวอย่างหุ้น เงินนะครับ จะเห็นภาพแนวโน้มไปในทางเดียวกันมาก


หุ้น Silver  (ETF) ทางกราฟทางเทคนิค



หุ้นบริษัท ขุด Silver  ทางกราฟทางเทคนิค



วิเคราะห์ทางเทคนิคโดย โปรแกรม Metastock



จะเห็นว่า ราคาเงิน หุ้นเงิน บริษัท ขุดเงิน เป็นไปในทางทิศทางเดียวกัน คือ มียังแนวโน้มขาขึ้นตามกราฟ แต่ สิ่งที่แตกต่างกัน คือ % การเพิ่มขึ้นของราคาในแต่ละวัน โดยราคาหุ้นแปรผันโดยตรงกับราคา ความต้องการ ทองคำ  เงิน หรือ การได้อนุญาติ สัมปทานในการชุดเหมืองเพิ่มเดิม เหมือน หุ้นถ่านหินเมืองไทยเรานั่นเอง ในการลงทุน สิ่งที่เราต้องการในผลตอบแทนคือ กำไร ซึ่ง บริษัท ขุดทอง เงิน ส่วนมากไม่มีการจ่าย บันผลรายปี ซึ่งบางบริษัท ก็มีเพียงรายปีเท่านั้น ดังนั้น การจะได้ผลตอบแทนจะคงเป็นในส่วนกำไร ผลต่างของราคาหุ้นเท่านั้น (Gain Profit)

แล้ว เขาขุดกันที่ไหน อะไร อย่างไร ที่ผมได้ค้นคว้า ศึกษามาจะขุดกันที่ ทวีปอเมริกาใต้ (ชิลิ,แมกซิโก,กาน่า ), ทวีปยุโรป (กรีซ, โรมาเนีย ) หรือ แคนาดาเองก็มี เหมือนชุดทอง เงิน โลหะมีค่าอยู่เช่นกัน


บทสรุป    การลงทุนในธุรกิจขุด ทอง เงิน และ โลหะมีค่า มี % การเติบโต มีผลตอบแทนที่มากกว่า ราคาทองคำ เงิน โดยราคาปรับตัวไปในแนวทางเดียวกัน  ขึ้นก็ขึ้นด้วยกัน ลงก็จะลงด้วยกัน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในระยะยาวจะมีผลการตอบแทนการลงทุนที่สูง ตามราคาของทองคำ เงิน ที่ปรับตัวขึ้นอย่างสูงด้วย  การลงทุนในธุรกิจขุดทองคำ เงิน ไม่มีผลตอบแทนในเรื่องของบันผล การลงทุนของผมจะเ้น้นไปทางการเก็งกำไรมากกว่า ตามกราฟทางเทคนิค ซึ่งจะได้ผลต่างการตอบแทน % การเปลี่ยนแปลงราคา ในการลงทุนมากกว่า จะต่างกับ หุ้นถ่านหินบ้านเรา ซึ่งยังคงมีปันผล 1-2 ครั้งต่อปี แต่ เวลา่เข้าซื้อหุ้น ผมมีความรู้สึกดีใจ ที่ได้ซื้อ บริษัทขุดทองคำ เงิน ที่ต่างประเทศ ก็ไม่อยากจะขาย (ถ้ามีบันผลให้ แต่ไม่มีนะสิ)  การลงทุนลักษณะนี้ เน้นไปทางการลงทุนตามแนวโน้มของโลหะมีค่า เช่น ทองคำ เงิน ทองแดง ซึ่งเราสามารถรับรู้ราคาได้ตลาดเวลา ด้วยข้อดี ของการปรับตัวราคา % ที่มากกว่า ทำให้เราสามารถได้กำไรได้มากกว่า ในเวลาที่เท่ากัน นับเป็นอีก หนึ่ง ทางเลือกที่ดีในการลงทุนทีเดียว ที่เร็วกว่า หุ้นทอง เงิน เสียอีก

ลงทุนกระจายความเสี่ยงด้วยหุ้น Silver ดีอย่างไร มีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร


 ไม่ได้เขียน Blog เพิ่มมานาน จนมีพี่ ทักว่า เขียนแต่หัวข้อ ล่อไว้ เมื่อไหร่จะเขียน  ขำ ขำ แต่ ดีครับ รู้สึกว่า มีคนสนใจบ้าง (คนไทยต้องเล่นหุ้นไทยเท่านั้นเหรอเปล่า คำตอบ คือ ไม่ ทำไมฝรั่งมาเล่นบ้านเราได้ เราจะไปเล่นบ้านฝรั่งมันบ้างไม่ได้)  ความรู้ที่ผมมีคงมีประโยชน์กับผู้อื่นได้ ดีใจ ความรู้ แนวทาง ผมชี้ทางให้  มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยกันได้ครับ เงิน $ มีในตลาดหุ้นมากมาย ให้แนวทาง แนะวิธี ไปหากันเองครับ ไม่หวง ยินดีเป็นอย่างยิ่ง  มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

  ลงทุนกระจายความเสี่ยงด้วยหุ้น Silver   ดีอย่างไร มีแนวโน้มในอนาคตเป็นอย่างไร  ดีไหม น่าลงทุนไหม  สำหรับส่วนตัว มีแนวลงทุนกระจายความเสี่ยงของตลาดหุ้นด้วย Gold หรือ หุ้นทองคำ ประเภท ETFs อยู่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่า แนวโน้มการตกต่ำของตลาดหุ้น มีแนวโน้มที่แปรผัน กับ แนวโน้มปรับตัวที่สูงขึ้นของราคาทองคำ สำหรับนักลงทุนไว้ป้องกันความเสี่ยง ค่าเงินตกต่ำ นั่นเอง ได้เขียนในบทความก่อนหน้านี้บ้างแล้ว

  สำหรับวันนี้ ขอแนะนำการลงทุน Commodity อีกตัวที่น่าสนใจ ก็คือ โลหเงิน หรือ Silver นั่นเอง  ทำไม มันน่าสนใจละ ในการวิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตภาพใหญ่ แนวโน้มของราคาจะมีการปรับตัวที่สูงขึ้น ถ้าเรามีการติดตามอย่างใกล้ชิด เราสามารถลงทุนและทำกำไรได้จากการลงทุน Silver  น่าเสียดาย ที่เมืองไทยยังไม่มี และ ยังไม่สามารถเทรด Silver ได้  แต่ในกลางปีนี้ จะมีการนำ Silver มาเทรดในตลาด TFEX เพิ่มร่วมกับ Gold ในที่เมืองไทยบ้านเรา ตามข่าวที่ได้รับมา (แต่ผมเล่นมั่วนิ่มกับฝรั่งไปก่อนแล้ว รวมทั้งได้ศึกษามาบ้างพอสมควร ซึ่งยังอยู่ในจังหวะขาขึ้น ก็เล่นไม่ยาก เมื่อภาพใหญ่มีแนวโน้มขาขึ้น เราซื้อ ขายตามคลื่น แบบพอเพียง ตามกราฟแบบเทคนิคประกอบกัน ทำกำไรได้เป็นกอบกำมากกว่า Gold อีก อ่านบทความนี้จบแล้ว ก็จะรู้ว่า ทำไมนะครับ)

โลหะเงินและแนวโน้มความต้องการในอนาคต คัดลอกตามข่าวที่ได้รับมาดังนี้ครับ (ไม่ได้ วิเคราะห์เอง อ่านข่าวมา หรือ ลอกการบ้านเขามา )

"ราคา โลหะเงินและราคาทองคำ มีทิศทางและการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่ในช่วงนี้สัดส่วนของการปรับขึ้นของราคาโลหะเงินมีมากกว่าราคาทองคำ ขณะที่การปรับลงของราคามีน้อยกว่า เพราะได้รับปัจจัยหนุนหลักจากความต้องการโลหะเงินของประเทศจีนที่สูงขึ้นตาม การขยายตัวทางเศรษฐกิจ  โดยในปี 2553 อยู่ที่ 10.3% ประกอบกับประชากร ประมาณ 5% ได้ ปรับฐานะทางการเงินจากคนยากจนมาเป็นชนชั้นกลาง ส่งผลให้ความต้องการใช้โลหะเงินเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเพื่อ ส่งออก และใช้ภายในประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย โดยปี 2553 มียอดนำเข้าโลหะเงิน 3,500 ตัน มากกว่า 3 เท่าตัวเทียบจากปีก่อนหน้านี้  จากอดีตที่จีนเป็นผู้ส่งออกโลหะเงินมาโดยตลอด"


"สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาโลหะเงิน คือแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก   แม้ จะทำให้ความต้องการโลหะเงินเพื่อป้องกันความเสี่ยงจะลดลง แต่การความต้องการเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นและจะส่งผลผลักดันให้ราคา โลหะเงินปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รวมถึงความต้องการโลหะเงินในจีน ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และความต้องการเพื่อใช้อุปกรณ์ใหม่ๆ อาทิ นำโลหะเงินมาใช้ในโซล่าเซลล์ ในแบตเตอรี่หรือที่เรียกว่า Silver–zinc batteries ที่เป็นการคิดค้นเพื่อนำไปใช้กับแบตเตอรี่ที่ต้องการคุณภาพสูงอย่างในโน๊ต บุ๊ค และมือถือ นอกจากนี้แล้วในอนาคตโลหะเงินอาจถูกนำไปใช้ในการผลิตรถที่ขับเคลื่อนด้วย พลังงานไฟฟ้า ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะช่วยผลักดันให้ราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นด้วย"


มาดูแนวโน้ม Silver ระดับ 30 วันดูครับ มีการปรับตัวจาก 31$/Oz สูงขึ้น 35$/Oz เพียงระยะเวลาเดือนเดียว คิดเป็น 12.90% ไม่น้อยเลยนะครับ จริงมั้ย


แนวโน้มภาพใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย ระดับ 1 ปี ย้อนหลัง จากราคาประมา๊ณ $17.5/Oz พุ่งมาเป็น $35.2/Oz คิดเป็น 85.71%   ไม่น้อยนะครับ แถมราคาจะยังคงไปต่อกับ Gold แน่นอน


ดูจากกราฟแล้ว น่าจะผ่านมาเพียงแค่ Wave 1 เท่านั้น ตามหลักทฎษฎี่คลื่นเอเลียต, Elliott Wave (1-2-3-4-5-a-b-c) รายละเอียดเพิ่ม สำหรับ Elliott Wave ตามลิงค์เลย (http://www.investopedia.com/video/play/understanding-Elliott-wave-theory )
ต้องลองดูกันครับ ว่า จะใช่หรือเปล่าเพราะมันเป็นอนาคต มั่วนิ่มไป สรุปว่า ง่ายๆ ยังมีพื้นที่ให้เดินต่อนั่นเอง อาจมีการย่อ ปรับตัวและทำกำไรบ้าง แต่ในภาพใหญ่ก็ยัง ราคามีแนวโน้มขาขึ้นต่อ

มาดูการเปลี่ยนแปลงราคา Gold เทียบ Silver กันดูนะบ้างว่าเป็นอย่างไร ลงทุนใน Gold จะดีกว่า Silver อย่างไหน ดีกว่ากันครับ บางคนว่า เก็บทองแท่งดีกว่า ชอบทองแท่ง ไม่ชอบเล่นซื้อขายตลาดสัญญาล่วงหน้า TFEX หรือ ซื้อหุ้น ETF เหมือนผมที่ซื้อในตลาด US ก็ไม่ว่ากันครับ กำไรเหมือนกัน    แต่ จะบอกว่า ในระยะเวลาเท่ากัน Silver สามารถทำกำไรได้มากกว่าหลายเท่ามาดูกันว่า ทำไมกัน


จากกราฟ การเปลี่ยนแปลงของ Silver เพิ่มมากกว่า Gold 2 เ่ท่า แต่ การลงลงของ Silver มากกว่าหลายเท่าทีเดียว ก็อย่างที่บอกว่า High risk High return ยังคงเป็นอยู่  รวยได้เร็ว ก็จนได้เร็ว นั่นเองครับ แต่ ลงทุนแบบมีระบบ แบบพอเพียง ทำได้ครับ มีกำไรแน่นอน

มาดูความสัมพันธ์ของ Silver เทียบกับ  Gold / Oil / US dollar Index กันบ้างว่าเป็นอย่างไร แนวโน้มตัวไหนที่สัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน


จะเห็นว่า การปรับตัวของ Gold/Silver/Oil จะเป็นในทางเดียวกัน โดยการเปลี่ยนแปลงของ Silver ยังมากกว่า Gold 2-3 เท่าทีเดียว โดยจะสวนทางกับการลดลงของ US dollar Index  มาดูแนวโน้มระยะ 1 ปี ที่ผ่านมากันบ้างตามกราฟด้านล่าง  (US dollar Index มีแนวโน้มที่ต่ำลง พิมพ์แบ๊งค์กันเข้าไป ยิ่งไร้ค่าลงทุกที)

 

จะเห็นว่า กราฟของราคา Silver มีการเปลี่ยนแปลงที่สูงเร็วกว่า ดัชนีเปรียบเทียบตัวอื่นๆ ในระยะเพียง 1 ปีที่ผ่านมา น่าสนใจลงทุนใช่ไหมละครับ

ส่วนนักลงทุนทั่งโลก ฝรั่ง ฝรั่งเขาเล่นตัวไหนกัน ซื้อที่ไหน อะไรอย่างไร  บอกว่า Silver สามาถซื้อขายเหมือนหุ้น Silver ซึ่งเป็น ETFs ตัวหนึ่งที่ซื้อขายกันในตลาด US:NYSE ตัวย่อคืิอ  SLV -iShares Silver Trust (ETF)  ตามรายละเอียด ใน Google http://www.google.com/finance?q=NYSE:SLV

จากที่กล่าวมาแล้วนั้นเป็น การวิเคราะห์ภาพรวมและแนวโน้มแทนการวิเคราะห์พื้นฐาน เพราะ หุ้น SLV ไม่มีค่า P/E, P/BV นั่นเอง มีแต่ Volume การซื้อขายเท่านั้น ราคาการเปลี่ยนแปลงก็คงเป็น Demand > Supply ตามหลักเศรษฐศาสตร์นั่นเอง

ต่อมาจะมาวิเคราะห์ทางเทคนิคกัน ก็บอกตามตรงว่า ผมไม่ใช่ นักลงทุนที่เก่ง Technical analysis มากมาย หรือ เซียน ผมจะวิเคราะห์ทั้งพิ้นฐาน Fundamental analysis และ  Technical analysis เท่าที่จะทำได้ด้วย พร้อมๆ กัน ตามนโยบายผม  "วิเคราะห์พื้นฐานเป็นเกราะ วิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอาวุธ" นั่นเอง และยังเล่นตามคลื่นลมไหลไปกระแสกราฟ เป็นประพฤติตัวเป็น เหาฉลาม เช่นเดิม จะมาดูว่า ทำอย่างไร 



จากกราฟทางเทคนิค Silver มีการปรับตัว เนื่องจากปัญหาของประเทศญี่ปุ่น แต่กำลังจะปรับตัวแนวโน้มขาขึ้น ตามสถานการณ์ความไม่สงบในโลกเรา เช่น กรณี ลิเบีย

มาลองวิเคราะห์ด้วยโปรแกรม Metastock แบบอัตโนมัติ ประกอบการตัดสินใจด้วย พบสัญญานขายทำกำไร ในระยะสั้น เนื่องจากกรณีปัญหาญี่ปุ่น

          

มาดูราคาวันนี้ 21 มีนาคม 2554 กันดูครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง


เปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้น จากการเปิดฉากถล่มลิเบีย เสริมเข้าไปอีก ทำให้เป็นแนวโน้มขาขึ้นมากขึ้น

รูปแบบการเล่นตามคลื่น แบบเหาฉลามทำอย่างไร  วันนี้ ขอมาขีดเขียนให้ชมแบบ Blog อื่นกันบ้าง ว่าทำอย่างไร แนวทางลงทุนกัน เหาฉลามผมนี่ทำอย่างไร   ซื้อตามสัญญานซื้อขาขึ้น และ ขายเมื่อมีสัญญานขาย ในระหว่างแนวโน้มขาขึ้น ทำกำไรเป็นระยะ ๆ ซื้อเพิ่มด้วยเมื่อปรับตัวลดลง ขายด้วยเมื่ราคาปรับตัวขึ้น มีการป้องกัน Protect Profit สำหรับว่า หาอย่างไรนั่น อย่างไร ผมได้เขียนบทความถ่ายทอดในบทความก่อนๆ ไปเยอะแล้ว ลองอ่านกันดู ตามภาพ ขีด เขียน ของผมเล่นครับให้เข้าใจมากขึ้น


บทสรุป การลงทุนใน Silver เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุนในพอร์ตลงทุน ที่สามารถทำกำไรได้อย่างแน่นอน ถ้าเมืองไทย มียังมีแนวโน้มที่ดีในการลงทุนระยะ สั้น กลาง ยาว ถ้าลงทุนได้ก็ลุงทุนเถอะ แต่ผมเล่นกันกับฝรั่งไปก่อนแล้ว (ไม่เคยกลัวฝรั่งเลย คนเหมือนกัน ทาน $ นี่แหละ อิ อิ เล่น TFEX ไม่เป็นหรอก ชอบทำอะไรง่ายๆ แล้วได้ตางค์เหมือนกันครับ ก็เหมือน เด็กจบมหาลัย มาสอบ แข่งกับ เด็กประถม ไงก็มีโอกาส ทำข้อสอบได้มากกว่า ไงละครับ ผมอยู่เมืองนอก จะ 3 ปีแล้ว เล่นหุ้นนอก 2 ปี ก่อนหุ้นเมืองไทย แต่กลับไปก็จะศึกษา TFEX แล้วกัน แต่ผมว่า เล่นซื้อตรงเปิดพอร์ต Global Trading เล่นจากเมืองไทยแบบผมดีกว่า ไม่ต้องผ่านกองทุน มาเล่นให้ ได้กำไรเต็มไม้ เต็มมือมากกว่ากัน ระยะยาวคุ้ม ค่าคอมมิชชั่นแน่นอน)  ในหลักการลงทุน ต้องมี การวิเคราะห์ทางพื้นฐาน ถ้าไม่มีต้องใช้มุมมองแนวโน้มในอนาคต และ วิเคราะห์ทางเทคนิค ร่วมด้วยในการเข้าซื้อ หรือ ขาย เพื่อทำกำไร ไปตามคลื่นลม คลื่นกราฟนั่นเอง สามารถทำกำไรและได้ประโยชน์มากกว่า ในมุมมองของผมเป็น "เหาฉลาม ไหลไปตามกระแสคลื่น"  นั่นเอง จะเล่นหุ้นนอก หุ้นเมืองไทย ก็หลักการลงทุนเดียวกัน



บทความอ้างอิง


2. ข่าว Silver TFEX , http://bit.ly/gZX2Et

3. ความเคลื่อนไหว Silver , http://www.kitcosilver.com/
 

Friday, February 25, 2011

ทดสอบโปรแกรม OASIS เทรดหุ้นนอกออนไลด์ ของเมืองไทย ใช้ได้ ดี ทีเดียว



ทดสอบโปรแกรม OASIS เทรดหุ้นนอกออนไลด์ ของเมืองไทย ผ่าน PC, Note book,Phone น่าจะใช้ได้ทีเดียวนะ เทรดออนไลด์ได้ตลาดหุ้น 19 ประเทศ ทั่วโลก (เยอะมาก ผมได้แค่ตลาดหุ้น 6 ประเทศเอง) ไม่ได้โฆษณานะครับ มันมีให้ทดลองใช้ รายนี้ รายเดียว  ผมใช้โปรแกรมเทรดหุ้น ที่เปิดในต่างประเทศ ของธนาคาร ยังไม่เคยเห็นโปรแกรมเทรดหุ้นนอกของเมืองไทย สักตัว ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนนักลงทุน ที่สนใจเล่นหุ้นนอกครับ มีรายเดียวที่ลองเข้าไปเล่น Demo ได้ (คิดในใจ ว่า ทำไมเจ้าอื่นไม่มีให้ลองบ้าง จะได้มีข้อมูลในการเปิดพอร์ต ทำการตลาดได้ ไม่โดนใจเลย )  วันนี้เลยจะลองมารีวิว ให้ชมกันว่า โปรแกรมเป็นอย่างไรบ้าง น่าใช้หรือไม่อย่างไรครับ เหมือนรีวิว รถ มือ ถือ ประมาณนั้นนะครับ ในมุมมองของคนที่เล่นโปรแกรมเทรดหุ้นนอกมากก่อน (มีประสบการณ์มากกว่านิดหน่อย)

โปรแกรมเทรดหุ้นมีชื่อว่า OASIS เป็นของโบรคเกอร์ CGS เราสามารถเข้าไปลองดาวน์โหลดและศึกษารายละเอียดได้ที่เว๊ปไซด์ :http://www.cgsec.co.th/corpweb/
ทำการลงทะเบียนเพื่อให้ได้ User ID และ Password เข้าสู่การทดสอบระบบ  ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม ตามขั้นตอน (กด กด ไป ไม่ยากครับ)



เมื่อได้ติดตั้งโปรแกรมแล้ว เข้าสู่การใช้งานโดยการใส่ User ID และ Password  ตามรูป


เมื่อป้อน User ID และ Password จะเข้าหน้าจอการใช้โปรแกรมตามภาพด้านล่าง



ในการส่ง Place order คำสั่งซื้อ/ขาย ควรมีฟังกชั่น Stop order/Limit order (มีอธิบายบทความก่อนหน้านี้แล้วครับ)ตามภาพตัวอย่างด้านล่างช่อง Type ซึ่งโปรแกรมนี้มีครบ แถมมากกว่า โปรแกรมที่ผมใช้งานคืออีกคือ ฟังก์ชั่น Trailing stop ก็ถือว่า ดีกว่า ตามตัวอย่างด้านบน Type เช่นเดิม โดยสามารถตั้งเวลากำกับได้ (Duration)


ด้านการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิค ก็มีความครบถ้วนของ Indicators ต่างๆ เช่น EMAs,RSI,MACD,Volume และ Indicators อื่นๆ ถือว่า ดีที่เดียว ช่วยให้เราวิเคราะ์ห์แนวโน้มของหุ้นได้ในการเข้าซื้อ หรือ ขาย ตามหลักทางเทคนิคคอล ตามภาพด้านล่าง



ด้านข้อมูล Overview มีข้อมูลตลาดที่ Bullish/ฺBearish , Technical event @ Screener ,Technical Event @Look up  ในตลาดต่างๆ ทั่วโลก เพื่อ ค้นหาหุ้นโดยทางเทคนิค และ Education Material  ไว้ศึกษาความรู้ทางการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีเหมือนพอร์ตเทรดหุ้น ที่ผมใช้ด้วย ถือว่า ใช้ได้ ตามมาตรฐานที่เดียวครับ ตามภาพด้านล่าง


หน้าจอ ข้อมูลส่วนตัวทางบัญชี Account / News/ Research ก็ครบถ้วน


โดยภาพรวม เป็นโปรแกรมที่น่าใช้ในการเทรดที่ดีครับ เพราะ มีฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการเทรดหุ้น Stop order/ Stop limit order เพื่อตั้งโปรแกรมซื้อขาย โดยการตั้งเวลากำหนดวันที่สิ้นสุด ล่วงหน้าได้ ทำให้ไม่ต้องติดตาม หรือ เฝ้าหน้าจอ ลดความสูญเสีย Stop loss และ ป้องกันกำไร Protect profit ของเราได้เมื่อหุ้นขึ้นแล้ว ถือว่า ดี และได้มาตรฐานสากลทีเดียว (ทำไมโปรแกรมเทรดหุ้น SET ไม่ทำกันบ้าง จะได้ไม่ติดดอยกัน)  ผมกลับเมืองไทย ก็คงไปเปิดโปรแกรมเทรดด้วย เอาโปรแกรมมาใช้ จะได้ข้อมูลในการเทรดมากขึ้น อย่างไรลองดาวน์โหลดมาลองใช้งานกันดูก่อนครับ ผมลองแล้ว คิดว่า เพียงพอทีเดียวในการใช้เทรดหุ้นนอก สำหรับ โบรคเกอร์นี้  ถ้าไปเปิดโบรคเกอร์อื่น แนะนำ สอบถามเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้เทรดหน่อยนะครับ ว่ามีฟังก์ชั่นที่จำเป็นในการเทรดหรือไม่ ถ้าไม่มีไม่แนะนำครับ ถ้าไม่มี Stop loss คุณเทรดไป เสียเงินเยอะมากครับ เงิน $ ซะด้วยนะ ไม่ธรรมดา

แนวทางจัดพอร์ตการลงทุน หุ้นนอก หุ้นไทย แบบผสมผสาน สมองผมคิดอย่างไร



แนวทางจัดพอร์ตการลงทุนหุ้นนอก หุ้นไทย ผสมผสาน ผมคิดอย่างไร ไว้มาเล่าให้ฟังกัน   ก็อย่างที่รู้ว่า คำว่า อิสระทางการเงิน (Financial freedom) เป็นเป้าหมายของการลงทุนของนักลงทุน หรือ คนโดยทั่วไปนั่นเอง ถามว่า จะทำอย่างไรไปให้ถึงจุดนั้น เราสามารถลงทุนได้หลายอย่าง ผมจะเล่าแนวคิดการผสมผสานการจัดพอร์ตการลงทุนหุ้นนอก หุ้นไทย ว่าเป็นอย่างไร

ถามว่า เอ้า ผมเรียนวิดวะมา ทำได้หรือ ไม่ได้จบ MBA หรือ เศรษฐศาสตร์ ไม่ได้มีใบปริญญาเต็มๆ กับเขาสักใบ  แล้ว เจ้าสัว พัน หมื่นล้าน ที่จบ ม.4 ทำไมเขาร่ำรวยได้ละครับ พวกเขาเหล่านั้น มีความคิดที่ไม่ธรรมดากว่าคนทั่วไป เขาจึงประสบความสำเร็จนั่นเอง  ถ้าคุณเคยพบกับเพื่อนผมบางคน ที่เป็นตัวแทนนักเรียนไทย แข่งขันโอลิมปิค ที่เรียนปีเดียวกัน คุณจะรู้ว่า พวกเขาไม่ธรรมดา อ่านหนังสือรอบเดียว ก็ได้ A ออกข้อสอบมาก็ประยุกต์ทำได้หมด เขาเรียกว่า พรสวรรค์ แต่มีคนอีกพวกที่อ่านหนังสือหลายรอบ ก็ได้ A เหมือนกัน แต่เหนื่อยหน่อย เขาเรียกว่า พรแสวง  ส่วนตัวผมน่าจะจัด อยู่ในพวก พรแสวง มากกว่าครับ  โดยที่จริง หลายคณะเขาเรียน เศรษฐศาสตร์ทั่วไป  การเงินการธนาคาร การบริหารจัดการทั่วไป ในวิชาเลือกพิ้นฐาน ระดับ ป.ตรี  ถ้าสายวิศวกรรม อาจจะมี การบริหารความเสี่ยงในทางวิศวกรรม (Risk management) ด้วยอีกต่างหาก ผมก็เรียนเหมือนกัน แต่คนส่วนมากเรียนแบบท่องจำ ไม่เอาแก่นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้ หรือ เรียนไปขอให้ผ่าน ให้ได้เกรด ให้ได้ปริญญาเท่านั้น ก็พอไม่รู้จักเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในชีวิตประจำวันนั่นเอง

โดยส่วนตัว ผมจะชอบอ่านหนังสือบริหารจัดการและการลงทุน ดูแนวความคิดคนอื่นๆ ครับ วันนี้ จะขอเขียนแนวคิดของผมเอง ว่าสมองผมคิดอย่างไร คร่าวๆ ว่า เป็นอย่างไร ในการบริหารและการจัดพอร์ตการลงทุนของผมเอง แบบเล่าสู่กันฟัง   เล่นหุ้นนอก แล้วดียังไง ทำไมมาเล่นหุ้นนอกด้วย แค่เล่นหุ้นไทยก็พอแล้ว บางคนคิด หุ้นไทยผมก็เล่น แต่ ผมรอเวลาและจังหวะมากกว่า ผมมีทางเลือกมากกว่า ในการลงทุนซื้อหุ้นทั่วอเมริกาเหนือ ที่มีคุณสมบัติเด่นกว่าหุ้นไทย บางอย่างนั่นเอง และในทางกลับกัน หุ้นไทยก็มีคุณสมบัติเด่นกว่า หุ้นนอก บางอย่างเช่นกัน ดังนั้น เราจึงต้องนำข้อดีมาผสมผสานกัน อย่างมีระบบให้ได้ประโยชน์ต่อเราสูงสุดนั่นเอง

ก่อนจะวางระบบ เราต้องรู้จักข้อดีของหุ้นไทย หุ้นนอก กันหน่อย ว่า มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร จึงจะจัดระบบได้ดี

ข้อดี-ข้อเสียหุ้นนอก - หุ้นนอกมีระบบการจ่ายเงิน บันผลรายเดือน รายไตรมาส หุ้นนอกมีการจ่ายบันผลที่สูงกว่าหุ้นไทยหลายตัวมากกว่า 10%-18% ต่อปีก็ที่เคยมีมา แต่ หุ้นนอกราคาแพง การ Upside ใช้เวลานานและไม่ค่อยมากเท่าหุ้นไทย ตลาดใหญ่ เจ้าก็ปั่นกันลำบากนั่นเอง

ข้อดี-ข้อเสียหุ้นไทย - หุ้นไทยราคาไม่แพง มี Upside ระหว่างวันเยอะ ใช้เวลา Upside ที่รวดเร็วกว่า มีเจ้าคุม การจ่ายบันผล 1-2 ครั้งต่อปี ตลาดเล็ก อ่อนไหว ตามปัจจัยภายนอกได้ง่ายมาก การเติบโตอาศัย Fund flow เม็ดเงินของฝรั่งเป็นหลัก หรือ การเติบโตของกิจการเอง

ลองมาทำ Flow ของระบบดู (ลงทุน ลุยเอง เขียนเองเลยวันนี้) ตามภาพครับ



อธิบายภาพประกอบดังนี้  พอร์ตการลงทุนหุ้นผม แบ่งเป็น 2 ประเภท- พอร์ตการลงทุนนอก และ พอร์ตการลงทุนหุ้นไทย   โดยที่ พอร์ตลงทุนผมเป็นแบบ Margin account และ พอร์ตลงทุนหุ้นไทยเป็นแบบ Cash balance account

พอร์ตลงทุนนอก การลงทุนแบ่งเป็นดังนี้ครับ
- ลงทุนกิจการในอเมริกาเหนือผลตอบแทนมากกว่า 10% ต่อปี เน้นจ่ายบันผลรายเดือน   เป้าหมายผลตอบแทนอย่างต่ำ $1,000 ต่อเดือน หรือ > 31,500 บาท ต่อเดือน ( ยิ่งมากยิ่งดี ครับ ) มีกำไรก็มาซื้อเพิ่มไว้ ได้บันผล แถม ขนาดพอร์ต Margin จะเพิ่มใหญ่ขึ้นอีกด้วยครับ 2 เด้ง ( Margin account ได้ 70% ของหุ้นทั้งหมด บวก เงินสดรวมกันทั้งพอร์ต) และ ใช้พอร์ต Margin ซื้อ เสียดอกเบี้ย 5% ต่อปี แต่ เราซื้อหุ้นบันผลรายเดือน มากกว่า 10% ต่อปี อย่างไรก็ มีกำไรมากกว่า 5%  แถมหุ้นขึ้น เราใช้หลักทางเทคนิคขายหุ้นในราคาแพง เพื่อทำกำไรได้อีกด้วย แล้ว ค่อยกลับมาซื้อในขาลง ซึ่งมีราคาถูกอีกที

- ลงทุนหุ้นแนวโน้มขาขึ้นทางเทคนิค  โดยใช้บัญชี Margin ซื้อ เช่น หุ้น 100 บาท เราจะใช้เงินเราเพียง 30 บาทเท่านั้น อีก 70 บาทเป็นเงินมาร์จิ้น แต่ เราต้องเสียดอกเบี้ยรายเดือน ในอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ข้อดี ของพอร์ตนอก คือ ค่าคอมมิชชั่น Flat rate ($6.98-$29.99) สามารถเทรดได้ จำนวนเงินที่มาก ต่อ Lot ถ้าหุ้นขึ้น ไม่กี่ % ก็สามารถขายทำกำไรได้ทันที   เมื่อได้กำไรสะสมไว้ในพอร์ต ซื้อหุ้นบันผลเพิ่มเติม ได้เงินบันผลรายเดือนด้วย แถม ยังเพิ่มขนาดพอร์ต Margin ได้อีกด้วย ทำให้ขนาดพอร์ตใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตาม Flow ของระบบ  โดยเป้าหมายของการลงทุนหุ้นขาขึ้นทางเทคนิค  กำไรเฉลี่ยต่อเดือนอย่างต่ำ $3,000 ต่อเดือน หรือ ให้มากที่สุด (เป้าหมาย มีไว้ให้ชน ได้ไม่ได้อีกเรื่อง)

ที่สำคัญ คือ ต้องมีวินัยในการ Stop loss โดยโปรแกรมพอร์ตเมืองนอกจะมีคำสั่ง Stop order อัตโนมัติช่วยลดความเสี่ยง ตั้งได้เป็นสัปดาห์ เป็นเดือน


โดยทั่วไปเป็น หุ้นบริษัททั่วไป Common stocks เช่น ธนาคาร บ. ขุดทอง เงิน, หุ้น ETFs ทองคำ หุ้นเงิน เป็นต้น

ลองทำตารางคำนวนหุ้นบันผลรายเดือน บันผลรายเดือน > 10 % ให้ชมกันครับ ในระยะ 10 ปี มีผลจากบันผล ทบต้น ทบดอก มีผลตอบแทนอย่างไร (ลงทุนทำตางรางเองด้วย ลงทุนมากบทความนี้นะ)

ตารางคำนวนหุ้นบันผลรายเดือน บันผลรายเดือน > 10% ต่อปี



จากตารางจะเห็นได้ว่า  เราลงทุน 100% ในระัยะ 10 ปี มีผลตอบแทน 162%  โดยจะมีรายได้ประจำเดือนเพียงพอที่จะเป็น อิสระทางการเงินแบบพอเพียงได้เลย สำหรับ พอร์ตขนาด $100,000 หรือ 3 ล้านบาท แต่จะมากกว่านั้น ถ้าเราดูกราฟทางเทคนิคประกอบด้วยไว้ ซื้อถูก ขายแพง

-พอร์ตการลงทุนหุ้นไทย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ลงทุนหุ้นบันผลสูง ในระยะยาว และ ลงทุนหุ้นทำกำไรตามทางเทคนิค ระยะสั้น ระยะกลาง หรือ เล่นตามรอบ

ลงทุนหุ้นบันผลสูงแบบ VI (Valued Investor)  เน้นการบันผลที่สูง ธุรกิจมีการเติบโตในระยะยาว มีการ Upside เก็บของจังหวะ ของถูก ๆ มักมีในยามวิกฤต หุ้นที่มันเงียบๆ เขาไม่ค่อยสน แต่ มีอนาคต ต้องมองหาให้ออก พวกนี้จะกำไรแบบก้าวกระโดด เหมือน นักลงทุนแบบ Valued Investor ที่ประสบความสำเร็จเป็น ร้อยล้าน พันล้าน

ลงทุนหุ้นทำกำไรทางเทคนิค  -เข้าเล่นตามสัญญานตาม Fund flow ของฝรั่ง  หรือ ตามสัญญานซื้อและ Volume  โดยเล่นรอบหรือ เฝ้าหน้าจอ ขาขึ้น Uptrend ผมอยู่เมืองนอกก็เล่น แต่ช่วงนี้ สุขภาพ พักผ่อนไม่เพียงพอเลย เบา เบาหน่อย ตลาด Sideway ซะเยอะแล้ว กลับเมืองไทยคงเน้นหุ้นบันผลสูงในระยะยาวมากกว่า

โดยส่วนตัว ผมทำกำไรหุ้นนอกได้ดีกว่าเยอะมาก ด้วยวิธีฟังก์ชั่น Stop loss และ Protect profit โดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ ที่เคยเขียนในบทความก่อน ด้วยรูปแบบการเล่น เหาฉลาม  จึงเน้นการลงทุนที่หุ้นนอกมากกว่า ด้วยค่าเทรด Flat rate $6.98   (มาร์ผมคงน้อยใจหรือเปล่า ก็ไม่รู้นะ อย่าน้อยใจนะครับ ขอโทษด้วย)

โดยสรุป การลงทุนในหุ้นนอกและหุ้นไทย ข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน เป็นเพียงแนวทางที่แนะนำในการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง และ เพิ่มช่องทางการลงทุนในตลาดหุ้นอื่นนอกจากตลาดหุ้นไทยอย่างเดียว แบบผสมผสานให้เกิดกำไรสูงสุด ตลอดเวลา ไม่ได้รอ Fund flow กันอย่างเดียว ดังนั้น การบริหารจัดการระบบการเงิน (Money management) เป็นสิ่งสำคัญในการลงทุนสำหรับ นักลงทุนที่มีประสิทธิภาพ วางเงินไว้ตรงไหน แล้วมันโต โดยใช้เวลาที่ไม่นาน  โดยเน้นไปที่การลงทุนที่เหมาะสมกับ Life style ของตัวเอง ไม่เพียงแต่หุ้น ยังรวมถึงการลงทุนอื่นๆ  คงอาจจะเคยที่ได้ยินคำพูดว่า  " 1 นาที ของแต่ละคนมีค่าไม่เท่ากัน" นั่นเอง

บทความต่อไปจะแนะนำ โปรแกรมเทรดหุ้นนอกของเมืองไทย ดี ดี มีฟังก์ขั่น Stop order ด้วยให้ชมกัน

Thursday, February 24, 2011

ระบบเทรดหุ้นด้วยฟังก์ชั่น Stop order ช่วย Stop loss และ Protect profit คุณได้ สบาย สบาย




ระบบเทรดหุ้นด้วยฟังก์ชั่น Stop order ช่วย Stop loss และ Protect profit  คุณได้ สบาย สบาย ง่ายอย่างไร นอนหลับฝันดี ไปเที่ยวสบายใจ ไม่ต้องเฝ้าหน้าจอ  ก่อนอื่นเล่ากรณีของการไม่ Cut loss หรือ Stop loss หุ้นไทย สะเทือนใจ PTL ไม่แพ้ตัวไหนในโลก ขึ้นเร็ว หุ้นไทยตัวนี้  ที่เพิ่งเริ่มหุ้นไทยไม่ได้เพียงกี่เดือน มีการปล่อยข่าว การตรวจสอบ กลต หรือ การปิดกิจการ ราคาหุ้นตกลงอย่างรวดเร็ว ผมไม่สามารถ Cut loss ได้ทัน หลับอยู่ ลงแรงมาก พอติดลบมากกว่า 10% ก็ไม่กล้า Cut loss ซะแล้ว จนเนื้อร้ายลุกลาม วันนี้ มากกว่า 50%  ตอนนี้ ยังอยู่บนดอยสูงเสียดฟ้ากันต่อไป ทำให้ผมเห็นความสำคัญ การ Cut loss หรือ การ Stop loss เป็นอย่างมากในการเล่นหุ้นนอกมากขึ้น  เนื่องจากโปรแกรมหุ้นไทยเรา ไม่มีฟังก์ชั่น Stop order ไว้ป้องกัน แต่ โปรแกรมเมืองนอกและโปรแกรมเทรดหุ้นมีคุณภาพ เขามีกัน จากการเล่นหุ้นนอก หุ้นไทย จึงเข้าใจว่า ทำไม แมงเม่า บ้านเราไม่น้อยทีเดียว อยู่ดอยกันเพียบ เพราะเหตุนี้เอง ฝากชีวิตไว้กับโบรคเกอร์ คงไม่ได้ คนเดียวเขาดูเป็นหลาย ๆ พอร์ตมีแค่ 2 มือ จะดูอะไรให้เราได้ ผมก็เข้าใจชีวิตโบรคเกอร์อย่างดี
  ดังนั้น อยากจะบอกว่า "การ Cut loss หรือ การ Stop loss เป็นสิ่งที่นักลงทุน ต้องมี" ถ้า Cut loss ไม่ได้ ไม่เป็น อย่ามาเล่นหุ้นดีกว่าครับ แทนที่จะได้กำไร คุณจะขาดทุนมากมายทีเดียว สำหรับ กรณี ศึกษาของ PTL ผมถือว่าเป็น ค่าครู ครับ ไม่โทษใคร ติดลบ เล่นหุ้นนอก กลบ Loss ได้สบาย งานนี้ต้องโทษตัวเอง ไม่ทำตามระบบ จึงเตือนให้คนอ่าน Blog เข้าใจว่า Cut loss ตามระบบเป็นสิ่งสำคัญมาก

จะเล่าให้ฟังว่าผมเล่นหุ้นนอกอย่างไร มีกำไร ไม่ขาดทุน โบรคเกอร์ ไม่ต้อง ผมลุยเอง ขำ ขำ ครับ มีโปรแกรมเทรดหุ้น ฟังก์ชั่นใช้ให้เป็นประโยชน์ สิครับ เคยลงสัยว่า คำสั่ง Stop , Limit stop เขาใช้กันอย่างไร ไม่รู้ต้องศึกษาครับ ว่า มันใช้อย่างไร แตกต่างกันอย่างไร

แนวทางระบบการลงทุนผมเฉพาะขาขึ้น สำหรับหุ้นบันผล 6-12 เดือน หรือ ไม่มีบันผล เล่นหุ้นตามกราฟทางเทคนิค ตามรอบ เล่นขาขึ้นเท่านั้น จะเน้นรูปแบบ Cut loss ครับ ถ้าหุ้นลงมากกว่า 1-2% และ Protect profit เมื่อหุ้นขึ้นแล้ว ขยับจุด Stop order ตามเพื่อ Protect กำไรเราครับ อย่างน้อย 70-80% โดยเราสามารถตั้งได้เป็นเดือน และ แก้ไขราคา Stop loss ได้ทุกเมื่อ หรือ ตลาดปิด ก็ได้ครับ ไปทำงานตอนตลาดเปิด ไปเที่ยว ก็นอนหลับฝันดีครับ  จุดสำคัญที่สุด คือ จังหวะเข้าซื้อ ถ้าหุ้นวิ่งขึ้น อย่าให้กลับมาขาดทุนครับ กฏผม น่าจะเป็นกฏที่นิยมใช้กันหลายคน 

มาชมวิดีโอที่ใกล้เคียงกับแนวการเล่นของผมกัน ในรูปแบบภาษาไทย ต้นฉบับเป็นอังกฤษ แต่ชมรมแมงเม่าคลับเขาแปลมาชมให้ด้วย ขอบคุณมากครับ ตาม VDO เลยครับแนวทางการเล่น จะเรียกว่า Trailing stop system



สำหรับ คำสั่ง Stop order กับ Stop limit order แตกต่างกันอย่างไร ดุได้ตาม VDO เลยครับ
Stop loss order VDO  :http://www.investopedia.com/video/play/stop-loss-orders
Stop limit order VDO :http://www.investopedia.com/video/play/how-do-limit-orders-work

อธิบายด้วยรูปภาพประกอบกันอีกที ให้เข้าใจมากยิ่งขึ้น




ตัวอย่าง การส่งคำสั่ง Order ซื้อหุ้นนอก


จะเห็นว่า มีคำสั่งพิเศษระบุ On stop,On stop limit ด้วย


ทุกครั้งที่มีการเข้าซื้อ ผมจะสั่ง Stop loss กำกับไว้ด้วยทุกครั้ง กรณีหุ้นลง ถ้าไม่ตั้ง Stop loss ไว้ เราจะขาดทุนเยอะครับ Order ถ้าหุ้นราคาขึ้นแล้ว ค่อยเลื่อน ราคา Stop loss ขึ้นไปเพื่อป้องกันกำไร พร้อมระยะเวลากำกับด้วย Cut loss จุดแรกเข้าการซื้อ 1-3% สำคัญตามความมากน้อยของการขาดทุนที่เรายอมรับได้ ถ้าหุ้นแนวโน้มขาขึ้นมากกว่า 2-3% แน่นอนครับ มีกำไรแน่นอน  ลองดูโปรแกรมเทรดหุ้นบ้านเรา (ไม่ใช่ TFEX) ไม่มีใช่ไหม เวลาโดนเทขาย เราทำงานกลางวัน จะทำอย่างไร มาร์สาวสวย ไม่ดูให้ทำอย่างไร เวลา่ตลาดหุ้นเปิด ตรงกับชีวิตการทำงาน ถ้าพอร์ต เราหลักล้าน ถึง ร้อยล้าน ขาดทุนยับ ยูยี่ แน่ (สงสัยว่า ทำไม กลต ไทยไม่ให้มีโปรแกรมคำสั่งนี้ใช้บ้าง เขาใช้กันทั่วโลก ถ้ามี มาร์ จะทำงานสบายเยอะ  แมงเม่า จำนวนลดลงแน่นอน หรือ ตลาดหุ้นไทย สร้างไว้ล่อแมงเม่า ให้เจ้าใหญ่กำไรกันนะ ขำ ขำ)

 ดังนั้น ถ้าเราไม่สามารถ นั่งเฝ้าหุ้นได้ อันตรายครับ ต้องเปลี่ยนรูปแบบการเล่น หรือ รูปแบบการลงทุนให้เหมาะสม เป็น การเล่นรอบ หรือ การลงทุนระยะยาว จะเหมาะกว่านะครับ หรือ ซื้อเพื่อบันผลเป็นแนวทางที่ดีมาก ไม่สนใจการผันผวน ระยะสั้น จะดีกว่า  ส่วนผมเล่นหุ้นนอก ผมเล่นทั้งหุ้นบันผลรายเดือน รายไตรมาส หรือ เล่นเก็งกำไร นอนหลับฝันดีกว่า โปรแกรมรูปแบบการเล่นหุ้นนอกเอื้ออำนวย ยิ่งกลับไทย ยิ่งสบายกว่า ตลาดหุ้นนอกเปิดกลางคืน กลางวันก็ทำงานไป แต่หุ้นไทย ต้องเปลี่ยนระบบการลงทุน นั่งเฝ้าคงไม่ได้แล้ว
  ระบบการลงทุนของผม "เล่นหุ้นนอกไม่เคยขาดทุน แต่หุ้นไทยติดลบครับ (ถ้าขาย) " เข้ามาเล่นหุ้นไทย สายจะเกือบ 1,000 จุด (แมงเม่านอกของแท้ ) ละเลย การ Cut loss แถมโปรแกรมเล่น SET ไม่มีคำสั่ง Stop order (นอนหลับไม่เพียงพอ แถมสุขภาพอ่อนแอ ) แต่ โปรแกรมเทรดหุ้นนอกที่เปิดจากเมืองไทย มีคำสั่งครบถ้วน เหมือนกันครับ จะรีวิวมาให้ชมกัน  ดังนั้น เลือกลงทุนจัดรูปแบบการลงทุน การเล่นให้เหมาะสมกับการดำเนินชีวิต (Life style) ของเราเป็นสิ่งจำเป็น ผมละเล่าให้ฟังในรูปแบบการลงทุนหุ้นนอก หุ้นไทยของผม ว่าเป็นอย่างไร การเล่นมีความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยง เป็นสิ่งจำเป็นมากด้วยเช่นครับ ในบทความต่อไป


บทความน่าอ่าน
ความแตกต่าง Cut loss กับ Stop loss :http://www.doohoon.com/smf/index.php?topic=35046.0 

Saturday, February 19, 2011

แนะนำโปรแกรม Candlestick Forcaster มาช่วยวิเคราะห์หุ้นระบบแท่งเทียนแบบอัตโนมัติ (Case study BANPU:SET 25/2/2011)


แนะนำโปรแกรม Candlesticks มาช่วยวิเคราะห์หุ้นระบบแท่งเทียนแบบอัตโนมัติ
ทำไม ต้องอัตโนมัติ วิเคราะห์เองก็ได้ ก็เอาไว้สอบทวน ตัดอารมณ์ของเราที่วิเคราะห์ด้วยตัวเองหรือ มั่วนิ่ม ออกไป ในการลงทุนแบบมีระบบ ก็จะดีกว่า ไม่น้อย

อย่างที่บอกว่า การลงทุนมีความเสี่ยง การวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ระบบ Indicators ต่างๆ เป็นอันดับที่ 1 หรือ วิเคราะห์แบบอัตโนมัติ  อันดับที่ 2  ในเครื่องมือที่วิเคราะห์ยังมีอีก หนึ่งโปรแกรมที่น่าสนใจ คิอ โปรแกรมวิเคราะห์แบบแท่งเทียน  มีซ้ำลำดับที่ 3 ผลที่ได้ ควรจะมีแนวโน้มเหมือนกัน ในการเข้าซื้อ หรือ ขาย สุดท้าย อยู่ที่ตัวเราเองแล้วละครับ ว่าจะตัดสินใจเช่นไร  การลงทุนผม เน้น ลดความเสี่ยงจากการไม่รู้ หรือ วิเคราะห์ด้วยตัวเองออกไปด้วย โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์แบบอัตโนมัติมาช่วยอีกแรง เรียกว่า เล่นกันแบบมีแผนซ้อยหลายก๊อก การเรียน การทำงาน ได้สอนผมมีแบบนี้ อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น หาข้อมูล ตัวช่วย เครื่องมือ มาช่วยตัดสินใจให้ ถูกให้ ดีขึ้นครับ อาจได้นิสัยมาจากการทำงานในสายวิศวกร นั่นเอง

โปรแกรมวิเคราะห์ มีชื่อ เรียกว่า Candlestick Forecaster มีคุณสมบัติตามด้านล่างนี้ครับ Copy มาให้ชมกันแบบ Originalเลย
  1. The Candlestick Forecaster™ candlestick inference engine is the most advance in the industry.
  2. Easy-to-read" "Pop-up" windows provides timely BUY and SELL signals with detailed initial STOP and trailing STOP levels, so user-friendly that even a novice investor without prior knowledge of technical analysis can easily understand.
  3. Advance Price Pattern Recognition System with a 1000 Pattern Recognition Library finds complex price patterns instantly and tells you of each pattern’s meaning and proper trading action.
  4. Individual Trading Models that provides a synergistic approach to analyzing the markets. These models include classic candlestick patterns, Tom DeMark's Sequential Theory, Geert Strubbe's Trending Candles/Body Reversal System, Fred Tam’s Library, Takahiro Hikita's Pattern Library, P.I. System Trader and more...
  5. CandleWatch™ scans your entire database of stocks and commodities for a detailed "hot-sheet" of today's BUY or SELL signals and prints detailed reports.
  6. Profit Testing module CandleVision™ allows you to see the results of back testing in actual dollars and cents.
  7. Quickly compresses Daily to Weekly and Monthly charts, 3-Line break, 2 Line Break, 1 Line Break or Variable compression type. Ideal for both short or long term traders.
  8. The floating CandleBox™ window allows you to quickly see the price activity on screen as well as related Western technical values. Also, the CandleBox™ shows all of the signals that are generated from a CandleVision™.
  9. Quickly teaches anyone how to use, understand and trade using Japanese Candlesticks, Western technical indictors and simple money management.
  10. Supports most historical data file types and can directly read many supported files without any timely conversion process.
  11. Our exclusive CandleTrain™ service offers you comprehensive on-line documentation and tutorial on Japanese candlesticks methodology.
  12. Our exclusive CandleAlert™ service informs you on what markets to BUY or SELL through weekly reports generated by CandleWatch™ on a weekly basis."
ตัวอย่างของโปรแกรมการใช้งาน ยกตัวอย่าง หุ้น ฺBANPU ตลาด SET ให้ชมกัน  ฐานข้อมูลที่ใช้สามารถให้ฐานข้อมูลเดียวกันกับ Metastock เช่นเดียวกันครับ ไม่ว่า จะหุ้นนอก หุ้นไทย มาชมกันว่า โปรแกรมมีอะไรบ้าง แนะนำอะไรให้เราบ้าง

BANPU: SET   25/2/2011


จากภาำพกราฟทางเทคนิคของ BANPU ยังสามารถเพิ่ม Indicators ได้ตามปกติ และสามารถให้ข้อมูลแบบแท่งเที่ยนได้ด้วยครับ โดยสามารถ บ่งบอก จุด Buy/Sell แบบอัตโนมัติได้ด้วยตามการวิเคราะห์แบบระบบแท่งเทียน นอกจากนี้ ยังสามารถวิเคราะห์ตามรูปแบบแท่งเทียน แนวโน้มการเรียงตัวของแืท่งเทียนได้้วยครับ พร้อมคำแนะนำที่เหมาะสม ตามภาพด้วยล่าง







วันที่ 25/2/2011 โปรแกรมวิเคราะห์ ระบุ แท่งเทียน Doji มีแนวโน้มเปลี่ยนการกลับตัว ให้รอการยืนยัน นอกจากนี้ยังสามาถให้คำแนะนำเป็นรายงานให้เราได้ด้วยตามด้านล่าง ว่าควรทำอย่างไร ให้เหมาะสมกับรูปแบบนี้ด้วยครับ


จะเห็นได้ว่า การนำโปรแกรมวิเคราะห์ Candlesticks Forecaster มาช่วย ทำให้เราได้ข้อมูลเพิ่มในการตัดสินใจลงทุน จะซื้อ หรือ จะขายได้อีกหนึ่งแนวทาง ทำให้การลงทุนของเรามีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น การใช้โปรแกรมเข้าช่วยวิเคราะห์ ช่วยเราป้องกันการวิเคราะห์พลาด หรือ ความเข้าใจที่ไม่ค่อยถูกต้องจากการวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ส่วนว่า เราจะตัดสินใจอย่างไร เราต้องทำการรวบรวมข้อมูลในการวิเคราะห์ทุกรูปแบบ ไม่ว่า จะโดยตัวเอง หรือ แบบอัตโนมัติ ในทางเทคนิค เพื่อ ช่วยลดความเสี่ยงลง บางครั้ง เราอาจตัดสินใจด้วยอารมร์ว่า อยากซื้อ เห็นว่า ของถูก ถูกจริงหรือยัง หรือ ขายของ เป็นช่วงที่สมควรขายของหรือยัง ไม่ใช่เพียงแต่อารมณ์ความรู้สึก หวาดกลัว ควรตัดสินไปตามสัญญานที่เราได้
  ส่วนฐานข้อมูลที่เราวิเคราะ์์ห์นั้น ข้อมูลที่เราได้คือ ข้อมูล EOD  รายวัน เหมาะสำหรับการลงทุนในระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว ซึ่งในการวิเคราะห์แบบเดย์เทรด เรามีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูล Online โปรแกรมนี้จะทำการวิเคราะห์ให้เราไม่ได้ แต่ การวิเคราะห์แท่งเที่ยนด้วยตัวเอง ช่วยได้ครับ สำหรับตลาดหุ้นไทย ที่มีความเร็ว แรง อ่อนไหวง่าย ช่วยในการตัดสินใจได้อย่างดีขึ้นครับ ว่าจะถือหรือจะขายของออกจากตลาดไปก่อนดี ลองศึกษากันเพิ่มเติม มีประโยชน์ในการตัดสินใจเพิ่มมากทีเดียว

มาอัพเดต ข้อมูล BANPU  28/2/2011 - แท่งเทียนแดง สัญญานขายตามคำแนะนำของโปรแกรม ใช้ได้ทีเดียวนะครับ 




รายละเอียดเพิ่มของโปรแกรม ลองมาหาใช้กัน ช่วยคุณได้แน่นอน ตามรายละเอียดของ Link ครับ http://www.highestsummit.com.my/index.htm