North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Tuesday, October 11, 2011

เทคนิคการลงทุนด้วย RSI อะไรที่ซื้อมากเกินไป ต้องระวัง อะไรที่ขายมากเกินไป ต้องเตรียมพร้อมซื้อ


   สอนหนังสือครบ 80 คนแล้วครับ มีทั้ง พี่น้อง หมอ วิศวกร อาจารย์ นักการเงิน เจ้าของธุรกิจ กับอีกหลายอาชีพ (ไม่น่าเชื่อตัวเอง ว่าจะมีคนมาเรียนกันขนาดนี้ ) กับ การถ่ายทอดวิชา "Technical VI  วิเคราะห์พื้นฐานเป็นเกราะ  วิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอาวุธ"  หลายก็มีคนขาดทุนมาก็มี มีผลตอบแทนที่ยังไม่ดี ลงทุนยังไม่ค่อยเป็นระบบ มือใหม่ก็มี คงได้ความรู้ที่เป็นระบบในการลงทุนที่ดีด้วยหลักการ Technical analysis เป็นเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจและช่วยในการบริหารพอร์ตให้ดีขึ้น ทั้ง วิเคราะห์ด้วยตัวเองและโปรแกรมอัตโนมัติ  ที่ สอนให้ด้วยความเข้าใจ ....ไม่ได้สอนให้จำ..สอนให้ลองทำจริง ทุกอย่างมีที่มา ที่ไป..มีเหตุมีผล  ดีใจที่ความรู้ติดตัว มีประโยชน์ คงช่วยหลายคนลงทุนได้ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย ...ขอบคุณที่เชื่อใจว่า สอนให้ได้  รู้สึกว่า "ชีวิตนึ้มีคุณค่ามากขึ้นทีเดียว"

หลายคน อยากเล่น Options หุ้นตปท  ลงทุนหุ้น ตปท  FOREX  TFEX GF ...หรือ แม้กระทั่้ง ลงทุนหุ้นไทย   ลงทุนได้หมดแต่ต้องฝึกฝน ..พื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ คือ  Technical analysis  ก่อน ผมสอนวิชา Technical analysis ให้ แล้วแต่จะไปใช้ที่ไหน อย่างไร แบบไหน ขึ้นกลับตัวคุณเองแล้ว เลือก รถถูกคันหรือไม่ แต่ วิธีขับเหมือนกัน ว่าเหมาะสมกับ Life styles ของคุณไหม คู่แข่งคุณคือใคร  ไม่ใช่ใคร คือ เหล่าคนที่ใช้เทคนิคคอล ทั้งนั้น เช่น ฝรั่ง (ฝรั่งเขาใช้ Technical ครับ ไม่ได้หวังการเติบโตที่แท้จริง เขาหวังกำไรกันอย่างเดียวครับ) กองทุน โบรคเกอร์ พอร์พเทรด ...หรือ เจ้า ...ถ้าคุณไม่เรียนรู้ บอกได้เลยว่า คุณลงทุนด้วยความเสี่ยงแล้วละครับ ทำไมนะหรือ ...คุณไม่มีความรู้ในการลงทุน ป้องกันตัวเอง เลย...เรียนรู้เขาว่า คนพวกนี้คิดอย่างไร เขาใช้วิธี คิดอย่างไร เอากำไรไปจากคุณได้อย่างไร เรียนรู้ความคิดของคู่แข่ง ..ใครมีความรู้เหนือกว่า จะเป็นผู้ที่มีกำไีรในสนามการลงทุน Zero Sum Game "รู้เขารู้เรา รบร้อย อาจชนะร้อย"

อะไรที่ซื้อมากเกินไป ให้ระวังเตรียมขาย  อะไรที่ขายมากเกินไป ให้เตรียมพร้อมเข้าซื้อ กับ RSI  เกี่ยวกันอย่างไรกับ การเรียนรู้ Technical analysis กัน มีคำตอบ

มาเข้าใจ  RSI  คืออะไร


"The Relative Strength Index (RSI) is a momentum oscillator that measures the speed and change of price movements. RSI oscillates between zero and 100. Traditionally, RSI is considered overbought when above 70 and oversold when below 30.  RSI can also be used to identify the general trend."

แปลคร่าวๆ ว่า RSI คือ การแกว่งแบบโมเมนตัม ที่ วัดความเร็ว และ การเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของราคา  RSI แกว่งระหว่าง 0 ถึง 100 โดยทั่วไป RSI จะถูกนำมาพิจารณา ขอบเขตซื้อมากเกินไป เมื่อ ค่าเหนือกว่า 70 และ ขายมากเกินไป เมื่อ ค่าต่ำกว่า 30.  RSI สามารถใช้ระบุแนวโน้มราคาทั่วไปได้อีกด้วย

RSI นอกจากจะเป็น สัญญานที่เตือน เรา ว่า มีคนซื้อมากเกินไปแล้ว (RSI > 70 ) เราต้องระวัง ....แต่ไม่ใช่สัญญานขายนะครับ  อย่าเข้าใจผิด  ในทางกลับกับ  ยังใช้เป็น สัญญานเตือน เราว่า มีคนขายมากเกินไป (RSI < 30) เราต้องเตรียมพร้อมเข้าซื้อ ...แต่ ก็ยังไม่ใช่สัญญานซื้อนะครับ  อย่าเข้าใจผิด  ต้องดูสัญญานอื่นประกอบด้วย  ...ถ้าเราไม่เรียนรู้สัญญานทางเทคนิคคอล แบบง่าย เช่น RSI  จะรู้ได้อย่างไร ว่า  หุ้นตัวนี้ มีคนซื้อมากไป .....คนซื้อมากไป  ..ให้ระวังเพราะอะไร  ก็ตอบง่ายๆ ก็ เขาพร้อมจะขายแล้วไง เขาซื้อนานแล้ว พร้อมขาย ถ้าไม่มี สัญญานเทคนิคดู จะรู้ได้อย่างไร จริงไหมครับ  เช่นเดียวกับ หุ้นตัวนี้ มีคนขายมากไป .....คนขายมากไป  ..ให้เตรียมซื้อเพราะอะไร  ก็ตอบง่ายๆ ก็ จะมีพร้อมจะซื้อแล้ว ราคาลงมามากแล้ว ของมันเริ่มถูกไง ถ้าไม่มี สัญญานเทคนิคดู เราจะรู้ได้อย่างไร (คิดเอาเองคงไม่ได้นะครับ) ...คนจะขาย Demand จะลดลง หุ้นจะปรับตัวลงแล้ว ต้องพึงระวัง ไม่งั้นติดดอยสูง  คนจะซื้อจะเริ่มมี Demand หุ้น จะปรับตัวขึ้นไงครับ จะได้ไม่ตกรถ ไปกับเขาด้วยคน .....อ้าว แล้ว ทำไมเป็นแบบนั้น ฝรั่ง กองทุน โบรค เขารู้  เขาก็ขาย ก็ซื้อกัน เหมือนกันทั้งโลก ก็แบบ เรียนโรงเรียนเดียวกัน ทฏษฎีเดียวกัน Textbook อาจจะเล่มเดียวกัน มันก็เป็นแบบนี้ไงครับ เลยเป็นไปตามการแกว่งตัวเป็น รอบ รอบ ของการเคลื่อนที่ของราคาไงครับ  มาดูตัวอย่างกัน 

หุ้นต่างประเทศ  Gold SPFR ETFs :GLD


 หุ้น Gold  จะเห็นว่า ช่วง Overbought Zone (RSI > 70)  ราคาได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากมาย คนซื้อเยอะ เพื่อนก็เยอะ พร้อมขาย ดังนั้น ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน หรือ การป้องกันกำไร ด้วยการตั้ง Stop order ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้ป้องกันกำไรเราไว้ เมื่อใดก็ตามที่ ราคาตกลงมา ให้ขายให้เราทันที ลงทุนด้วยความประมาท ..ตัวนี้เพื่อนให้ไล่ซื้อเพิ่ม ตอน Gold 1,800$/oz  เลยบอกว่า เดี๋ยวราคาก็ปรับตัวลงมา ไม่ซื้อเพิ่ม เพราะ คนซื้อเยอะแล้ว  อะไรที่คนซื้อเยอะแล้ว ต้องให้ระวัง อะไรที่คนคิดเหมือนกัน ก็ต้องลงทุนด้วยความระวังให้มาก  ( 90% คนคิดเหมือนกัน อีก 10% คนคิดไม่เหมือนกัน จะรอด) ในตลาด ฝรั่ง ก็มีความโลภแล้ว การเก็งกำไร ไม่ได้ต่างกัน  ทางเดียวที่ทำได้ คือ ลงทุนด้วยความไม่ประมาท ส่วน ช่วง Oversold ( RSI < 30) ให้เตรียมความพร้อมเข้าซื้อ รอสัญญานทางเทคนิคในจุดที่มั่นใจ ก่อน


หุ้นไทย : AJ


หุ้นไทย :PTL


หุ้น AJ,PTL ทั้งสองตัว นี่ คนติดดอยกันไม่น้อยนะครับ ไล่ซื้อตามกัน บางคนไม่ได้ดูสัญญานเทคนิคกันเลย ว่า เขาซื้อกันเยอะเพียงไหนแล้ว ตาม ตาม กันไปบนยอดดอย (Overbought Zone,RSI > 70) ต้องเพิ่มการระวังในการลงทุน ไม่ได้เชื่อโบรคกันอย่างเดียว (เหมือนผม สมัยเล่นหุ้นไทยแรกๆ)  รู้งี้ รู้งี้ อีกแล้ว ถ้ารู้ก่อน จะจะไม่ได้อยู่บนดอย ส่วน ช่วง Oversold ,RSI < 30  ต้องเตรียมพร้อมในการเข้าซื้อ ถ้าใครยังไม่มีหุ้น ...หุ้นแบบนี้ เสีย Story คนติดเยอะ คนจะขายกันทุกราคา แต่พอทำจะกำไรได้บ้าง ราคาจะกลับสู่ราคาเดิมยากมาก ตามหลัก Fibonacci ที่จะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาขึ้นจะเจอแนวต้านหลายด่านทีเดียว

บทสรุป  RSI สามารถช่วยในการเตือนการลงทุนด้วยความระมัดระวัง และ ช่วยเตรียมความพร้อมในการลงทุน ยังสามารถบอกทิศทางการเคลื่อนที่แนวโน้มของราคาได้อีกด้วย (ไม่ใช่สัญญานให้ ซื้อ ขาย นะครับ จะต้องดู Indicators อื่นๆ ประกอบด้วย) นอกจากนี้  RSI เป็น Indicator ที่ดี สามารถช่วยยืนยันสัญญานซื้อ ขาย ร่วมกับ Indicators อื่น หรือ ช่วยดูการปรับตัวของราคาแบบ Divergence ได้ หรือ ตี Trend Line break out ที่ถูกต้องด้วย  ถ้าเราไม่ได้ดูสัญญานเทคนิค เราจะไม่รู้อารมณ์ตลาด ปริมาณคนซื้อไปเยอะ หรือยัง แนวโน้มการปรับตัวของราคา ให้ลงทุนด้วยความไม่ประมาท มากขึ้น ไม่ได้บอกว่า แม่น หรือ ไม่แม่น แต่ เป็น สัญญานหนึ่งในการบริหารการลงทุน ด้วยข้อมูลปัจจุบันร่วมกับอดีต  ดีกว่า ลงทุนแบบไม่รู้อะไรเลย ว่า เราต้องลงทุนอย่างไร ด้วยความไม่ประมาท เพียงแต่วันนี้ เขียนประโยชน์ของ RSI ในเพียงมุมมองหนึ่ง (ยังมีอีกหลายมุมมอง) "อะไรที่ซื้อมากเกินไป ต้องระวัง อะไรที่ขายมากเกินไป ต้องเตรียมพร้อมซื้อ"  จะช่วยให้เราลงทุนด้วยความระมัดระวังและ มีความพร้อมในการลงทุนที่ดีมากขึ้น


No comments:

Post a Comment