North america

Global Trading Investment Knowledge in Stock Markets : USA (Dow Jones, Nasdaq), Canada (TSX), Thailand(SET)

Friday, July 8, 2011

กลยุทธ์การลงทุน ด้วยการจัดพอร์ต (Portfolio management) ด้วยการจัดการความเสี่ยง (Risk management )



เพิ่งกลับมาจากเยี่ยมเยียน เกาะบาหลี อินโดนีเซีย ช่วงวันที่ 13-18 กรกฏาที่ผ่านมาครับ ชีวิต Inter trader ลำบากกันนิดหนึ่งกับการเทรดหุ้นนอกประเทศ พร้อมกับการปั่นสไลด์ เตรียมการสอนหลักสูตรเทรดหุ้นนอก หุ้นไทย Stop working too You still can  ครับ จะมาเล่า ให้ฟังความตื่นเต้น ในบาหลี ให้ฟัง บทความต่อไป


เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาได้สอนเทรดหุ้น สานฝันการเป็นอาจารย์ ที่จริง อยากเรียนต่อ ดร. เหมือนเพื่ิอน เหมือนพี่คน อื่นๆ รายได้อาจารย์บ้านเรา เรียนไป รายได้จะยิ่งลด งง งง มั้ย จะไม่เยอะเหมือนเมืองนอก จะพา น้อง น้อง กันแย่ครับ เมืองนอกเป็นอาจารย์อย่างล่ำซำครับ แต่ อาจารย์บ้านเรา รายได้น้อยนิด สมองไหลกันหมด ผมเทรดไม่กี่วัน เท่าเงินเดือนแล้ว จากวิชาความรู้ที่มีอยู่ เทรดหุ้นไทย หุ้นนอก ขำ ขำ กัน ที่แหละ

สอนวันแรก กลุ่มแรกตกใจกันนิดหนึ่ง คนแรกเป็นพี่หมอรักษาโรคหัวใจ คนที่สอง พี่ PTT คนที่สาม พี่ BCP ระดับอินไซด์เดอรฺ์บริษัทเราในตลาดหุ้นบ้านเรานี่เอง วันที่สอง น้องหมอโรคผิวหนัง 2 คน พี่คุมอง ไม่ธรรมดาเลยกันครับ ไม่น่าจะรู้จักกันได้ง่ายๆ เลย ยินดีมากครับ เรียนกันง่ายๆ สอนแบบครบทุกมุมมองของการเทรดหุ้นนอก หุ้นไทย เพราะ ผมเริ่มจากคนเล่นหุ้นไม่เป็น ก็จะสอนแบบคนเล่นไม่เป็น จะเล่นให้เป็น ให้ดี ไม่เสี่ยง ทำได้อย่างไร มี Road map เส้นทางชี้ให้ (ประหยัดเวลาเดินไปซัก 2 ปี ไม่หลงทาง ไม่ติดดอยสูงชัน ขำ ขำ บางคนเล่นกอล์ฟยังมีโปรจับให้ เล่นหุ้นต้องมีคนแนะทาง จะเร็วกว่า ถูกต้อง ไม่ใช่ลองผิดลองถูก พอร์ตเสียหาย ขาดทุนยู่ยี่) ให้รู้ทุกมุมมอง ครบทุกด้านของการลงทุน ไม่เช่นเรียนเพียงด้านเดียว ไปเรียนแล้วกลับมา มึน มึน ยัง งง ทำอะไร ไม่เป็นเหมือนเดิม จับต้นชนปลายไม่ถูก สรุปเสียตางค์ เกือบฟรี หรือ เรียนเล่น เล่น ไม่ตั้งใจมา มีตางค์ ผมก็ไม่สอน สอนแล้ว ต้องให้ใช้ได้จริง เน้นคุณภาพ จัดเต็ม ไม่งั้นเสียชื่อ  การเทรดหุ้นมันเป็นศิลปะแบบหนึ่งเช่นกัน แบบที่ Text book เขียนไว้แบบด้านล่างครับ


พอเรียนจบ พี่หมอ บอกว่า เทคนิคนี้ดี อันนี้ไม่รู้ ใช้ดี  พี่อีกคน คอร์สนี้ สามหมื่นบาทก็เรียน คุ้มมาก วันเดียว พี่บอกว่า ก็คืนทุนแล้ว ที่แนะนำก่อนเรียน ได้มากกำไร 6% จากพอร์ต 2 ล้าน ฟังแล้ว ปลื้ม แสดงว่า DNA ติวเตอร์สอนพิเศษ ฟิสิกส์ เก่า ยังมีอยู่ แต่ ค่าเรียนผม ( คิดค่าเรียนถูกกว่าเรียน Toefl อีกเรียนจบไป เสียค่าเรียนอีก ล้านกว่าบาท กลับมาเป็นเพียงลูกจ้างเหมือนเดิม (ถ้าจะคิดเป็น)เฮ่อ. วัยรุ่นเซง ผมเองนะครับ ขำ ขำ..บอกได้เลยว่า ยุค 3G มา คนทำงานหาเงินในอากาศ จะเยอะขึ้นอีกมาก มุมมองผม ทำงานได้ทุกที่ แค่ลงทุนความรู้ ในการลงทุน คุณจะหาปลาทานเองได้ตลอดชีวิต ....แม้จะอยู่บ้านนอก ไม่ใช่ในเมืองกรุง ไม่ได้อยู่บนดอยนะ) จะลงทุนทำบุญกองทุนการศึกษาช่วยเด็กๆ ด้วยตามที่ฝันที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้า ผมทำให้มันโตขึ้นได้ด้วยเงินกองทุนที่ได้แลกจากการสอน ส่วนหนึ่งบันผลกลับให้ผู้เรียน เรียนกันแบบเพื่อน หลัง Class คุยกันปรึกษา ช่วยกันทำการบ้านผ่าน Facebook หุ้นนอกเป็นหมื่นตัว คนเดียวไม่ไหวแน่ ต้องเล่นกันเป็น Team work หุ้นไทยก็ช่วยกันทำการบ้าน และสามารถช่วยน้องๆ กันได้ พี่ พี่ ถามว่า ทำไมเรียนรู้เร็ว ผมตอบไปว่า ก็  พอเรียนรู้เร็ว เรียนดี ได้ A เยอะ ขำ ขำ แต่ที่จริงไม่ใช่หรอกครับ ผมทำอะไรแล้ว เอาจริง เรียนจริง ตั้งใจจริงเอาให้ได้เกรด A จริงๆ แถมอยู่เมืองนอก มันหนาวติดลบ วัน วันอยู่บ้านค่อยไม่ได้ไปไหน ลัลลาแบบเมืองไทยไม่ได้หรอก เวลามันเยอะ เวลาเท่ากัน เทรด 2 ฝั่งซีกโลก มันเร็วกว่าอยู่แล้ว ได้ประสบการณ์เพิ่มเร็ว ผมเรียนรู้จาก Text books ฝรั่ง, VDOs ด้วยข้อดีที่ ฟัง อ่าน ภาษาอังกฤษรู้เรื่องได้พอใช้นั่นเอง แถมเป็นคนคว้า ศึกษาเอง พัฒนาตัวเองได้ (ไปอยู่เมืองนอกเขาสอนกันแบบนี้) ตามหลัก PDCA (Plan-Do-Check-Action) ปิดจุดอ่อนที่มีให้เร็ว จึงรวดเร็ว แถมเทรดหุ้นนอกมาก่อน พอมาเทรดหุ้นไทย ก็เหมือน เด็กมหาลัยมาทำข้อสอบ มัธยม นั่นเอง

นอกเรื่องอีกตามเคยนะครับ จะมาเล่าการวิเคราะห์การลงทุนแนวพื้นฐาน เพื่อเลือกหุ้นเข้าพอร์ตกันให้ความเสี่ยงลดลง ในธุรกิจแต่ละบริษัทมีวงจรชีวิตของมัน วิ่งเป็นรอบ ประวัติศาสตร์ ย่อมซ้ำรอย มีลงก็ต้องมีขึ้น ดูภาพรวมออก เจาะรายละเอียดย่อย ลดความเสี่ยงในการลงทุน คราวนี้จะมาแนววิเคราะห์พื้นฐาน ในการเลือกหุ้นเข้าพอร์ต ดี ดี สักตัว ในแต่ละประเภทธุรกิจ เพื่อที่จะลดความเสี่ยงลง ต้องมองภาพใหญ่ให้ออก ในทุกมุมมอง ค่าพื้นฐานภาพใหญ่ เช่น P/E vs P/BV


Earning Yield vs Revenue Growth

Earning Yeild vs Earning Growth

โดยวิเคราะห์ค่าพื้นฐาน Market cap, P/E Ratio, EPS Growth ในแต่ละประเภทของธุรกิจในตลาดอเมริกาเหนือว่า แนวโน้มธุกิจไหนมีการเติบโตจากอดีต และ แนวโน้มในอนาคตให้ออกในภาพรวม Overview หรือ Performance ว่าธุรกิจไหน จะมีแนวโน้ม ดี  เพื่อ เจาะลงไปยังบริษัท รายต้ว





จากข้อมูลธุรกิจ Healthcare มี Market cap ที่ใหญ่ มีผลตอบแทนปีที่ผ่านมา มากที่เดียว ดังนั้นในพอร์ตของก็น่าจะมีไว้ประดับพอร์ตไว้สักตัว ในประเภทธุรกิจนี้ ยกตัวอย่างในธุรกิจ Healthcare มาหาหุ้นดี ดี  P/E หรือ EPS Growth 5 ปี โต โต กัน


จากข้อมูล ดูแล้วอุตสาหกรรม Managed Healthcare   EPS 5 ปี มีค่าผลตอบแทนกำไรที่ดีทีเดียว หรือ จะเลือกกลยุทธ์บันผล High Dividend สูงดี มากกว่า 10% 


PDL BioPharma Inc. และ Daxor Corporation ก็จ่ายบันผลดีที่เดียว หลังจากได้ตัวเลือก 3 บริษัท เราต้องมาคัดเน้น เน้น สักตัวว่าตัวไหน ดีที่สุด ทั้งทางพื้นฐาน และ ดูกราฟทางเทคนิคเพื่อหาจังหวะเข้าซื้อในเทรนขาขึ้น ซื้อปั๊บแล้วหุ้นขึ้น ไม่ได้อยากซื้อแล้ว ซื้อ ต้องรอจังหวะ ค่าทางเทคนิคที่เหมาะสมด้วยด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิค (ก็ผมไม่ใช่ VI เพียวเป็นลูกครึ่งเทคนิคด้วยนะ)

มาดูกราฟประวัติย้อนหลังกัน 2 ปี

PDL BioPhama Inc.

Daxor Corp.



เปรียบเทียบระยะการจ่ายบันผล ติดตามเทรน หาจังหวะเข้าแนวโน้มขาขึ้น โดยวิเคราะห์ทางเทคนิค เอาแบบใส่ตางค์แล้วโตเลยครับ VI แบบใส่ตางค์ไว้รอ ไม่ใช่แนวทางผมนะครับ ที่เสีย คือ เสียเวลา นั่นเอง (แถมความรู้สึกนิด นิด )


มาดูหุ้นไทยกันบ้าง แถม แถม สำหรับแนวทาง ก็ไม่ได้แตกต่างกัน ต้องมองภาพใหญ่ให้ออก แล้วมองเจาะไปภาพเล็ก รายตัว มอง Fund Flow ให้ออก ธุรกิจไหน อะไรกำลังมา จะได้เกาะไปกับเขาถูก เป็นเหาฉลามไป อย่าไม่ฝืนเทรนตลาด เป็นรอบ รอบไป ไปก็ไปตามเขา เข้าช้า ออกก่อนหน่อย แค่นี้ก็กำไรพอเพียง


จะเห็นได้ว่า พี่ผรั่งยังซื้อสะสม ติดตามทุกวัน ก็น่าจะรู้ว่า ควรเตรียมพร้อมอย่างไร ออกเมื่อใด แล้วมาเจาะลึกดูว่า ประเภทธุรกิจไหน กำลังจะมา  จะกำลังกลับตัว Turn around หรือ ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น ตามก็ นิ่ม นิ่ม ตามเทรนไป


มาเจาะดูกราฟทางเทคนิคกัน ว่าแนวโน้วอย่างไร ยกตัวอย่าง ประเภทธุรกิจ Bank


หรือ ธุรกิจ Health care ก็ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น



จากนั้น ก็เจาะไปรายตัว ตามบริษัทว่าในกลุ่มไหน ตัวไหนกำลังมา หรือ พักตัวหาจังหวะเข้าตามแนวโน้มขาขึ้น ดูอย่างไร ขอบอกว่า ต้องใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเข้าช่วยหาจังหวะซื้อ  เข้าผิดมี Stop loss เข้าถูกตัวปล่อย Let profit run ทำกำไร ไปจนหมดเทรน


เลือกเอาเลยครับ ตัวไหนแนวโน้มขาขึ้น เก็บเข้าพอร์ต ประเภทธุรกิจละตัว สองตัวก็แล้วแต่ ดูแนวโน้มของกราฟ หาจังหวะเก็บ เข้า ตามการวิเคราะห์ทางเทคนิค ลดความเสี่ยงในพอร์ต ในการกระจายความเสี่ยงด้วย

ตัวอย่าง Kbank ภาพใหญ่ ยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น



บทสรุป การวิเคราะห์ทางพื้นฐาน และทางเทคนิค ไม่ว่าจะเล่นหุ้นนอก หุ้นไทย ก็ไม่ได้ต่างกันมากมายเท่าไหร่ การจัดพอร์ตให้เหมาะสมด้วยการกระจายความเสี่ยง ในหลายธุรกิจ จะทำให้พอร์ตรวมลดความเสี่ยงลง และยังคงรักษาระดับผลตอบแทนที่น่าพอใจ ที่เล่ามาจะเป็นการมองภาพรวม สู่การมองภาพเล็ก Top to Down method โดยการกระจายความเสี่ยงไปในแต่ละธุรกิจ (Diversified business) ที่มี Cycle life ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ใน Text book ของฝรั่ง เขาใช้คำว่า Controlling risk ใน 3 ขั้นตอน คือ Entry , Exit , Trade size in ด้วย  การจัดการพอร์ตยังมีอีกหลายเทคนิค เช่น Triangle Investment การลงทุนแบบสามเหลี่ยม , Positioning sizing  หรือ เพิ่มโตด้วย Margin Re-Investment (เืทรด 4 ครั้ง รอบละ 10% จะได้ผลตอบแทน 100% เป็นไปได้) เฮ้อ....เขียนไม่หมด  เป็นอันว่า  เลือกตัวให้ถูก หาจังหวะเข้า เทรนมา จัดเต็ม อัดให้สุดเทรน พอร์ตจะ โต้ โต ผิดทางมี Stop loss  เข้าช้าไม่เป็นไร ขายหมูไม่เป็นไร ไม่มีใครซื้อหุ้นได้ถูกสุด และขายได้แพงสุด พอเพียง พอใจ ใจ สบาย สบาย ก็แล้วกัน

แนวคิดของ Risk management  
 

No comments:

Post a Comment